“พิชัย”ห่วง เศรษฐกิจเริ่มถดถอย แนะ “บิ๊กตู่” จี้ 4 รมต. พลังประชารัฐ เร่งทำงานอย่ามัวแต่หาเสียง ขนาดทำงานเต็มที่ประชาชนยังแย่หนัก เตือน อย่าทิ้งทวนโครงการใหญ่เอื้อนายทุนสนับสนุนรัฐบาล
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อเช้าวันที่ 26 ต.ค.2561 ว่า รู้สึกเป็นห่วงเพราะปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณของการถดถอยทางเศรษฐกิจ โดยการส่งออกเดือนกันยายนหันกลับมาติดลบที่ ลบ 5.2% ติดลบครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอ่อนไหวของเศรษฐกิจไทย และผลกระทบจากสงครามเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน ที่อาจทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น อีกทั้งการลงทุนภาคเอกชนที่ลดต่ำมาตลอด 4 ปีกว่า หลังจากการปฏิวัติรัฐประหาร ทำให้การส่งออกขยายตัวต่อไปได้ยาก ทั้งนี้ การขยายตัวของการส่งออกที่ผ่านมาเกิดจากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นและการใช้กำลังการผลิตที่เหลือค้างเดิม ไม่ได้เกิดจากฝีมือของรัฐบาลแต่อย่างใด ดังนั้นรัฐบาลจึงควรเร่งรัดการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศให้เพิ่มขึ้น ซึ่งนักลงทุนอาจจะรอการเลือกตั้งที่จะมาถึงก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โดยดูว่าจะ โปร่งใส ยุติธรรม และ เชื่อถือได้ไหม หากมีความผิดปกติ เช่น มีการกลั่นแกล้ง หรือ มีการทุจริตในการเลือกตั้ง ก็อาจจะชะลอไม่ลงทุนอีกได้
ทั้งนี้ประชาชนจำนวนมากยังสงสัยกันว่า เหตุใดการเยือนประเทศเยอรมนี ของพลเอกประยุทธ์ จึงถูกยกเลิกกลางคัน นอกจากนี้ การท่องเที่ยวที่เป็นแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจไทยมาตลอด 4 ปีกว่า เริ่มมีสัญญาณของการถดถอยเช่นกัน ซึ่งน่าจะเกิดจากการสื่อสารและการรับมือที่ผิดพลาดของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด นักท่องเที่ยวใน เชียงใหม่ และ ภูเก็ต หายไปอย่างน่าใจหาย สร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการอย่างหนัก
อีกทั้งสินค้าเกษตรเช่น มะพร้าว และ ยางพารา ราคายังตกต่ำมาก แต่ราคาน้ำมันกลับพุ่งสูงและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก
ดังนั้น จึงอยากขอแนะนำให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กำชับให้ 4 รมต. ที่ปัจจุบันกำลังยุ่งอยู่กับการหาเสียงให้กับพรรคประชารัฐ ได้เร่งใส่ใจทำงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เริ่มถดถอยนี้อย่างเร่งด่วน เพราะขนาดทำงานอย่างเต็มที่มาตลอด 4 ปีกว่า เศรษฐกิจยังย่ำแย่ ประชาชนยังลำบากมาก มาตอนนี้จะแบ่งเวลาไปหาเสียง ผลงานก็จะยิ่งย่ำแย่กว่าเดิม ประชาชนก็จะยิ่งลำบาก
นอกจากนี้ อยากให้ พลเอกประยุทธ์ ได้รับฟังเสียงทักท้วงจากประชาชนที่แสดงความเห็นคัดค้านการดำเนินหลายโครงการใหญ่ๆในช่วงนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นการเอื้อประโยชน์นายทุนที่สนับสนุนรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด อย่าทำให้ประชาชนคิดว่ารัฐบาลกำลังจะทิ้งทวนเพื่อเอื้อประโยชน์นายทุน เพื่อนายทุนอาจจะนำเงินมาสนับสนุน พรรคการเมืองที่สนับสนุนให้มีการสืบทอดอำนาจให้พลเอกประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯต่อหลังการเลือกตั้ง ขนาดสื่อยังเผยว่าในขณะที่การเติบโตของประเทศอยู่ในระดับต่ำมาตลอด 4 ปีกว่า และประชาชนลำบากกันมาก แต่นายทุนที่สนับสนุนรัฐบาลกลับมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 1.8 แสนล้านบาท และ นายทุนที่สนับสนุนรัฐบาลอีกหลายคนก็รวยขึ้นเป็นหมื่นเป็นแสนล้านเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่าประโยชน์ของการบริหารประเทศตกอยู่กับใคร และเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าการบริหารงานของรัฐบาลนี้ที่ทำให้เกิดการ รวยกระจุก จนกระจาย อย่างยากจะปฏิเสธ
ดังนั้นแนวนโยบายของรัฐบาลหลังการเลือกตั้งที่จะต้องทำลายการผูกขาดจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อไม่ให้ปิดกั้นโอกาสของประชาชนที่จะพัฒนาก้าวหน้าได้
matemnews.com
26 ตุลาคม 2561