Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ครม. แอ่วเหนือ ทำไมต้องไปพะเยา – เชียงราย?

ครม. แอ่วเหนือ ทำไมต้องไปพะเยา – เชียงราย?

634
0
SHARE

 

 

เฟชบุ้ต เชียร์ลุง

 

ระหว่างวันที่ 29 – 30 ต.ค. นี้ นับเป็นอีกภารกิจสำคัญของการลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีและคณะ ณ จังหวัดพะเยา และจังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน)

 

โดยกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวประชากรของกลุ่มจังหวัดฯ ในปี 2559 อยู่ที่ 79,155 บาท/คน/ปี เป็นลำดับที่ 15 ของ 18 กลุ่มจังหวัด

 

จังหวัดเชียงราย มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวมากที่สุด (86,884 บาท/คน/ปี) รองลงมาเป็นจังหวัดพะเยา (83,967 บาท/คน/ปี) จังหวัดน่าน (68,285 บาท/คน/ปี) และจังหวัดแพร่ (64,833 บาท/คน/ปี)

 

สำหรับศักยภาพและโอกาสในการพัฒนาของกลุ่มจังหวัด ได้แก่ การมีที่ตั้งและโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งที่สามารถเชื่อมโยงการพัฒนากับกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) โดยกลุ่มจังหวัดนี้มีพื้นที่ติดต่อกับ สปป.ลาว และเมียนมา อีกทั้งยังเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ มีวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา และธรรมชาติ

 

วิสัยทัศน์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 คือ “ประตูการค้าสู่สากล โดดเด่นวัฒนธรรมล้านนา สินค้าเกษตรปลอดภัย ประชาชนร่วมใจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ”

 

ซึ่งการตรวจราชการในครั้งนี้ นายกฯ ให้ความสำคัญกับประเด็น ดังต่อไปนี้

 

จังหวัดพะเยา

 

  1. ด้านการบริหารจัดการน้ำและจัดการที่ดิน

 

  • การบริหารจัดการน้ำ ด้วยการพัฒนานวัตกรรม “ประตูระบายน้ำแบบพับได้” ตามโครงการพัฒนากว๊านพะเยาอย่างยั่งยืน บริเวณศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา เพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำของกว๊านพะเยา สำหรับใช้ในการเกษตร อุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ รวมทั้งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดที่สำคัญของจังหวัด

 

  • การจัดการที่ดิน โดยการมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในลักษณะแปลงรวมของจังหวัดพะเยา ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ให้แก่ผู้แทนประชาชนจำนวน 5 ราย พื้นที่จัดสรรอยู่ในเขตอำเภอแม่ใจ จังหวัดเชียงราย เนื้อที่รวมทั้งหมด 14,926 ไร่ มีผู้ได้รับการจัดสรรที่ดิน จำนวนทั้งสิ้น 2,171 คน

 

  1. ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนบน เป็นแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค การเกษตร เป็นแหล่งประมง รวมทั้งเป็นพื้นที่รองรับน้ำตอนบนขนาดใหญ่ที่สามารถป้องกันและบรรเทาปัญหาการเกิดน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ตอนล่างได้

 

  1. ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา และธรรมชาติ เป็น 1 ใน 55 เมืองรองที่ภาครัฐอยู่ระหว่างการผลักดันภายใต้นโยบายสนับสนุนการกระจายรายได้จากเมืองใหญ่สู่เมืองรองและท้องถิ่น และการยกระดับเศรษฐกิจชุมชน

 

  1. ด้านการส่งเสริมตลาดชุมชนในรูปแบบตลาดประชารัฐและการดำเนินงานตามนโยบายไทยนิยมยั่งยืน

 

  • โครงการตลาดประชารัฐ ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการขยายตลาดที่มีอยู่เดิมและพัฒนาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อให้เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย สามารถเข้ามาเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ นำไปสู่การเพิ่มรายได้และเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

 

  • โครงการไทยนิยมยั่งยืน ของจังหวัดพะเยา โดยวิเคราะห์ปัญหาความต้องการของประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ภายใต้แนวทางการขับเคลื่อนงาน / โครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายลงพื้นที่ในระดับหมู่บ้านร่วมกันตามแนวทางประชารัฐ เพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนงาน / โครงการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนในการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนำไปสู่ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

 

  1. ด้านการขับเคลื่อนระบบการส่งเสริมสุขภาพ : การดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง (Long Term Care) เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ฮอมฮัก จังหวัดพะเยา (ฮอมฮัก เป็นคำพื้นเมือง คำว่า ฮอม แปลว่า การรวม การมีส่วนร่วม ฮัก แปลว่า ความรัก ความเอื้ออาทร เมื่อรวมกัน จึงแปลว่า การรวมเอาความรัก ความเอื้ออาทรและการเอาใจใส่ ที่ได้ให้กับประชาชนได้พ้นทุกข์มีความสุข)

 

ถือเป็นต้นแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้พิการในพื้นที่อย่างครบวงจรต่อเนื่อง ซึ่งเป็นศูนย์ในระดับตำบล มีภารกิจในการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้อยู่ในระยะที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพ ด้วยความร่วมมือของชุมชน ที่เป็นการทำงานร่วมกันของภาคีต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น ภาคเอกชนและประชาชน และหลักการจิตอาสา ปัจจุบันมีการจัดสร้างศูนย์ฮอมฮักครบทั้ง 68 ตำบล ใน 9 อำเภอของจังหวัดพะเยา

 

จังหวัดเชียงราย

 

  1. ด้านการจัดการที่ดิน โดยการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 รวม 7 พื้นที่ใน 4 จังหวัด และหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้แก่ประธานป่าชุมชน จำนวน 4 แห่ง ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล

 

  1. ด้านการส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาผสมผสานกับวิถีชีวิตในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและการท่องเที่ยวชุมชน ณ บ้านเมืองรวง ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีความโดดเด่นและหลากหลายในด้านแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โบราณสถาน ศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงผลิตภัณฑ์ OTOP นอกจากนี้ยังเป็นหมู่บ้านที่สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนในปี 2558 และ 2559 โดยทั้งสองครั้ง ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์พระราชทานของครัวเรือน นางบัวผัด และนายทวี กำแพงแก้ว

 

  1. ด้านการยกระดับคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบบริการสาธารณสุข

 

  • การจัดตั้งศูนย์รังสีรักษา ณ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อรองรับการให้บริการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ให้สามารถเข้ารับบริการได้อย่างสะดวก ทันเวลา ลดการส่งต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียง (เชียงใหม่และลำปาง)

 

  • การผลิตแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพระดับปฐมภูมิ (Primary care) แก่บุคคล ครอบครัว และชุมชน ให้ครอบคลุมอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลเขตเมืองและชนบท ที่เน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษา และการฟื้นฟูสุขภาพอย่างต่อเนื่องโดยใช้แนวคิดแบบองค์รวมทั้งสุขภาพกายและจิตใจ ควบคู่กับสภาพเศรษฐกิจ สังคมของบุคคล ครอบครัวและชุมชน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการผลิตและพัฒนาแพทย์ในกลุ่มนี้ ให้มีอัตราส่วนที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับแพทย์รักษาโรคทั่วไป และที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ดำเนินการ “คลินิกหมอครอบครัว” หรือ Primary Care Cluster (PCC) ตามนโยบายของรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2558 และยังเป็นสถาบันหลักที่ดำเนินการฝึกอบรมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวอีกด้วย

 

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ที่มีความครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

 

 

 

matemnews.com 

29 ตุลาคม 2561