Home ข่าวทั่วไปรอบวัน มุมมอง Thailand 4.0 ยุทธศาสตร์เชื่อมต่อ Belt and Road  

มุมมอง Thailand 4.0 ยุทธศาสตร์เชื่อมต่อ Belt and Road  

910
0
SHARE

 

สัมมนาใหญ่ “Thailand 4.0 ยุทธศาสตร์เชื่อมต่อ Belt and Road” สมาคมผู้สื่อข่าวไทย–จีน ร่วมกับ สำนักข่าวซินหัว : Xinhua Silkroad, CRI, SilkRoad Television, ZTE, GEIDCO, CPALL และหนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี่ จัด ณ ห้องซาลอน B โรงแรมสวิสโซเทล เลอคองคอร์ด ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ วันที่ 4 สิงหาคม 2560 เพื่อจุดประกายการเชื่อมต่อทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

 

 

การสัมมนาครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากท่าน หยัง หยัง  ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และ ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นองค์ปาฐกถาพิเศษ เพื่อให้ภาพที่ชัดเจนของ Thailand 4.0 และทิศทางการเชื่อมต่อผลประโยชน์กับยุทธศาสตร์ One Belt One Road ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีเวทีเสวนาโดยเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานหอการค้าไทย-จีน, นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, รศ. พ.ต.ต. ดร.ดนุวศิน เจริญ รองคณบดี ฝ่ายวิชาการ คณะบริหารธุรกิจสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และ รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาร่วมให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็น

รศ. พ.ต.ต. ดร.ดนุวศิน เจริญ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะบริหารธุรกิจสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวมาจากการที่รัฐบาลต้องการปลดล็อกเศรษฐกิจแบบเดิมที่มุ่งไปยังการรับจ้างผลิตเป็นหลัก ด้วยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งเศรษฐกิจนั้นไม่ใข้แค่เพียงการพัฒนาแต่การพัฒนาในประเทศเพียงเท่านั้น แต่เราต้องเชื่อมโยงกับโลกด้วย และโครงการ One Belt One Road ของจีนซึ่งเป็นการเชื่อมโยงประเทศทั้งในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และแอฟริกาเข้าด้วยกันได้เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ของประเทศไทย

ด้าน คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานหอการค้าไทย–จีน ได้แสดงความเห็นในแง่ของธุรกิจว่า นโยบายดังกล่าวของจีนนับเป็นโอกาสที่จะช่วยให้ไทยได้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลไทยได้เร่งผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งนับว่าเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ดังกล่าวของจีน โดยจะเอื้อให้จีนเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแบ่งปัน และถ่ายทอดความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับเรา แต่สิ่งสำคัญก็คือความต่อเนื่องของนโยบายของซึ่งเราควรจะต้องดำเนินต่อไปเราถึงจะได้รับประโยชน์มากที่สุด

 

รศ. ดร. นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า ส่วนหนึ่งของนโยบาย One Belt One Road นั้นนอกจากจะเป็นการเชื่อมต่อด้านการคมนาคมแล้ว ยังมีการร่วมมือในด้านการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน  แต่สิ่งสำคัญก็คือไทยต้องเอาจริงเอาจังกับนโยบาย Thailand 4.0 ให้เหมือนกับที่จีนมีความจริงจังกับนโยบาย One Belt One Road เป็นอย่างมาก จนทำให้วันนี้นโยบายเป็นรูปธรรมขึ้นอย่างมาก

ขณะที่ คุณเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเชื่อมต่อระหว่างทั้งสองยุทธศาสตร์ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไกลไป เพราะยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีนถือเป็นยุทธศาสตร์ระดับโลกที่จีนคิดค้นขึ้นมาเพื่อแผ่ขยายอำนาจทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ส่วนยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 ของรัฐบาลไทยเป็นแค่เพียงยุทธศาสตร์ภายในประเทศเท่านั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่ไทยจะทำได้ก็คือค่อยๆเพิ่มความร่วมมือกับจีน พัฒนาร่วมกัน ติดต่อไปมาหาสู่กัน และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ยังไม่จำเป็นต้องไปคิดถึงการเชื่อมต่อกับโครงการใหญ่ขนาดนั้น โดยสิ่งที่ไทยจะได้รับจากโครงการ One Belt One Road ของจีนนั้นก็คือโอกาสในการเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้น