Home ข่าวทั่วไปรอบวัน คะแนนความยากง่ายในการทำธุรกิจไทยตก 1 อันดับ แต่พลเอกประยุทธ์ก็พอใจ

คะแนนความยากง่ายในการทำธุรกิจไทยตก 1 อันดับ แต่พลเอกประยุทธ์ก็พอใจ

722
0
SHARE

 

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อเช้าวันที่ 3 พ.ย.2561 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจผลคะแนนความยากง่ายในการทำธุรกิจไทย หรือ Doing Business 2019 ที่รายงานโดยธนาคารโลกล่าสุด โดยประเทศไทยมีความก้าวหน้า ด้วยคะแนน 78.45 จากคะแนนเต็ม 100 เพิ่มจากปีที่แล้ว ที่ได้คะแนน 77.39 แม้อันดับจะตกลงไป 1 อันดับ จากอันดับที่ 26 เป็น 27 แต่ยังคงเป็น 30 ประเทศแรกจาก 190 ประเทศทั่วโลก

 

นายพุทธิพงษ์ ระบุว่า นายกฯ เน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการปฏิรูปกฎระเบียบตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อลดช่องว่างของมาตรฐานประเทศไทยกับมาตรฐานระดับสูงของโลก ซึ่งจากรายงานระบุว่าประเทศไทยปฏิรูปได้ดีใน 4 ด้านสำคัญ คือ 1) การเริ่มต้นธุรกิจ มีค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนลดลง 2) การขอใช้ไฟฟ้าหรือการเข้าถึงไฟฟ้า มีความสะดวกสบายมากขึ้น ปรับลดขั้นตอนการขอเชื่อมไฟฟ้า และเพิ่มความโปร่งใสในการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมไฟฟ้า 3) การชำระภาษี มีการปรับปรุงระบบการคำนวณและยื่นแบบภาษีรายได้นิติบุคคลทางระบบออนไลน์ และ 4) การค้าระหว่างประเทศ ได้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Matching System) มาใช้ในการควบคุมตู้สินค้า ช่วยลดระยะเวลาในการขนถ่ายสินค้าข้ามแดนได้

 

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่มีการปฏิรูปด้านการขอใช้ไฟฟ้ามากที่สุด โดยได้คะแนนสูงถึง 98.57 คะแนน ใกล้เคียงกับแนวปฏิบัติที่ดีเลิศของโลก ส่วนตัวชี้วัดด้านการแก้ไขปัญหาล้มละลาย ซึ่งเป็นประเด็นท้าทายของโลกนั้น ไทยได้คะแนนเพิ่มขึ้นจาก 75.64 เมื่อปีก่อน เป็น 76.64 ในปีนี้

 

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมธนาคารโลกที่ได้สะท้อนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้ทั่วโลกเห็นความก้าวหน้าของประเทศ ส่วนเรื่องใดที่ไทยยังมีจุดอ่อนก็จะเร่งปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป พร้อมทั้งฝากขอบคุณที่เห็นว่าไทยมีความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงบรรยากาศในการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการเอกชน ซึ่งจะช่วยให้คนไทยมีงานที่ดีขึ้นและนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม รวมทั้งการสนับสนุนในเรื่องต่าง ๆ ที่ธนาคารโลกมีต่อประเทศไทย” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

 

 

Matemnews.com 

3 พฤศจิ กายน 2561