เที่ยงวันนี้ถ้า “วัฒนา เมืองสุข”ไม่ได้ออกจาก ปอท.
นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เขียนข้อความโพสต์ในเฟชบุ้คชื่อบัญชี
Watana Muangsook เมื่อตอนเช้าวันที่ 10 สิงคาม 2560 ความว่า
“เดี๋ยวเจอกัน”
ผมกำลังเตรียมตัวเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. ที่ขอพบผมวันนี้เวลา 11.00 น. โดยอ้างว่าเพื่อลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี (ปจว.) ทั้งที่การลง ปจว. เสร็จสมบูรณ์และผมได้ลงลายมือชื่อใน ปจว. แล้วตามที่โพสต์มาพร้อมนี้ ข้ออ้างดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้ผมกลับมาอยู่ในการควบคุมของ พงส. อีกครั้งเพื่อจะเอาตัวผมไปฝากขังที่ศาล
ตามกฎหมาย พงส. ไม่มีอำนาจที่จะควบคุมตัวผม เนื่องจากผมได้มาพบ พงส. ด้วยตนเองและการสอบสวนผมได้เสร็จสิ้นลงแล้ว กล่าวคือ แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ผมให้การปฏิเสธแล้ว และพิมพ์ลายนิ้วมือเรียบร้อยและอนุญาตให้ผมเดินทางกลับแล้ว ความจำเป็นที่จะต้องควบคุมตัวผมจึงหมดลง อีกทั้งทุกคดีก่อนหน้าก็ปฏิบัติเช่นนี้ ล่าสุดคือคดีของคุณประวิตร โรจนพฤกษ์ อย่างไรก็ตาม หาก พงส. เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะให้ศาลออกหมายขังผมก็จะต้องดำเนินการโดยทันทีแต่ต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมง นับจากครั้งแรกที่ผมเดินทางมาพบ ดังนั้น หากจะนำตัวผมไปศาลก็คือการเลือกปฏิบัติและใช้อำนาจบังคับที่ผมไม่อาจขัดขืนได้
ผู้ใหญ่หลายท่านขอให้ผมเลื่อนการมาพบ พงส. ออกไปก่อน แต่ผมเห็นว่าผมไม่ผิดและทำตามกฎหมาย ผมย่อมได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมาย เหตุการณ์ที่จะเกิดกับผมจะเป็นบทพิสูจน์คำพูดของพลเอกประยุทธ์ที่ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย ซึ่งต้องหมายถึงรัฐด้วยไม่ใช่แค่ประชาชนเท่านั้นที่ต้องเคารพ ส่วนใครก็ตามที่ใช้อำนาจบังคับเอาตัวผมไปศาล นอกจากจะเป็นการหน่วงเหนี่ยว กักขังแล้วยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ซึ่งผมจะฟ้องและดำเนินคดีกับทุกคนเพื่อปกป้องสิทธิของผมอย่างแน่นอน ดังนั้น หากผมไม่ได้ออกจาก บก. ปอท. ก่อน 12.00 น. ก็แปลว่าผมถูกบังคับให้ไปศาล ใครอยากเจอผมก็ไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งผมเชื่อว่าผมจะได้รับความเป็นธรรมและการคุ้มครองจากศาล
วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
10 สิงหาคม 2560
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2560 นายวัฒนา โพสต์ข้อความว่า
“กลับใจเถอะ”
ผมเป็นห่วงภาพลักษณ์ของประเทศ เมื่อเห็นภาพที่คุณประวิตร โรจนพฤกษ์ เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. โดยมีเจ้าหน้าที่สถานทูตประเทศยุโรปที่ให้ความสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน ตัวแทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ คณะกรรมการนิติศาสตร์สากล และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาให้กำลังใจและเข้าร่วมสังเกตการณ์
คุณประวิตรฯ เป็นผู้สื่อข่าวภาษาอังกฤษที่ได้รับรางวัล “เสรีภาพสื่อนานาชาติ” การถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรจึงย้อนแย้งกับรางวัลที่ได้รับ ทำให้ประชาคมโลกให้ความสนใจ ผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับคุณประวิตรคือ คสช. ซึ่งเป็นโจทก์เจ้าเดียวกันกับผมและคุณพิชัย นริพทะพันธ์ ด้วยข้อหาเดียวกันโดยใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ การกระทำของ คสช. จึงทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย เท่ากับเป็นการตอกย้ำว่าประเทศไทยยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่ ความตั้งใจที่จะเอาคดีมาปิดปากทุกคนจึงไม่ได้ผลแต่กลับได้เสียงก่นด่าประณามมาแทนที่ ยังดีที่ไม่มีความพยายามจะเอาตัวคุณประวิตรไปควบคุมเหมือนที่เกิดกับผม ไม่เช่นนั้นจะเสียหายมากไปกว่านี้
ผมขอเตือนหัวหน้า คสช. ด้วยความหวังดีว่า การเป็นรัฐบาลต้องพร้อมรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน เพราะรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินด้วยเงินภาษีของประชาชน รวมทั้งเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ที่พวกท่านได้รับก็มาจากภาษีประชาชนเช่นกัน ดังนั้น ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจและเงินภาษีย่อมมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคนที่ใช้อำนาจและเงินของพวกเขาได้เสมอ หากรับฟังไม่ได้มีทางเดียวคือต้องรีบคืนอำนาจแล้วลาออกไป ภายใต้สถานการณ์ที่เปราะบางเช่นนี้ ทางที่ดีคือเปิดใจให้กว้าง ยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะหากท่านทำดีแล้วยังมีคนกล้าวิจารณ์คนนั้นย่อมจะเสียหายเอง เปิดพื้นที่แห่งเสรีภาพให้ประชาชนได้แสดงออก ปล่อยกระบวนการยุติธรรมให้เป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนดีกว่า
วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
9 สิงหาคม 2560
Matemnews.com 10 สิงหาคม 2560