สภานิติบัญญัติชาติ ประชุมที่อาคารรัฐสภา เมื่อเช้าวันที่ 23 พ.ย.2561 นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่…) พ.ศ. … วาระแรก ตามที่สมาชิก สนช.44 คน นำโดยนายสมชาย แสวงการ เข้าชื่อเสนอเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ปลดล็อกให้กัญชาสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้
นายสมชาย อภิปรายแถลงสาระสำคัญและประโยชน์ของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 กำหนดให้สามารถขออนุญาต ผลิต นำเข้าหรือส่งออก ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ซึ่งประกอบด้วยกัญชา และกระท่อม เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์สามารถนำไปใช้ในการรักษาโรคเฉพาะตัวได้ เช่นเดียวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 2 แบบฝิ่นเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงการใช้เสพเพื่อสันทนาการ และให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นผู้กำหนดเขตพื้นที่ทดลองเพาะปลูกกัญชา และเสพกัญชา เพื่อการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ในปริมาณที่กำหนดโดยไม่ถือว่ามีความผิดกฎหมาย ซึ่งการกำหนดพื้นที่ดังกล่าวจะต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกามีมาตรการตรวจสอบควบคุม สำหรับผู้ที่จะสามารถอนุญาตครอบครองกัญชาได้ประกอบด้วย กระทรวง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สภากาชาดไทย องค์กรเภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์สาขาต่างๆ ทั้งทันตกรรม สัตวแพทย์ แพทย์แผนไทย เป็นต้น โดยผู้ขออนุญาตจะต้องไม่เคยต้องโทษตามกฎหมายยาเสพติดมาก่อน และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้พิจารณาอนุญาตตามความเห็นของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ยืนยันว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการรับฟังความเห็นจากประชาชน ตามมาตรา 77 วรรค 2 ทั้งจากเว็บไซต์ที่มีผู้เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ถึงร้อยละ 99.03 และเปิดเวทีรับฟังความเห็น รวมถึงได้ส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแล้ว โดยไม่ได้มีการเสนอร่างกฎหมายมาประกบ แต่มีข้อสังเกตความเห็นจากกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการกฤษฎีกา และ ป.ป.ส.
แล้วเปิดให้สมาชิกอภิปราย มีผู้อภิปรายหลายคน จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 145 เสียง
ให้ตั้งกรรมาธิการ 29 คน กำหนดแปรญัตติ 7 วัน โดยพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน
matemnews.com
23 พฤศจิกายน 2561