กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปะของกัมพูชา ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า องค์การยูเนสโกมีมติขึ้นทะเบียนให้ “ละครโขน” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสงวนรักษาอย่างเร่งด่วน โดยการรับรองดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมที่กรุงพอร์ตลูอิส ประเทศมอริเซียส ซึ่งสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้กล่าวยกย่องการรับรองดังกล่าวผ่านทางเฟชบุ๊ก ระบุว่า การรับรองของคณะกรรมการยูเนสโกถือเป็นความภาคภูมิใจครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศชาติ ซึ่งเกิดขึ้นจากความพยายามของรัฐบาล เหล่าศิลปินท้องถิ่น ชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชน จนนำมาซึ่งความสำเร็จ
รายงานระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาพยายามยื่นเรื่องให้ทางยูเนสโกรับรองละครโขน ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว โดยโฆษกกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปะของกัมพูชาเปิดเผยว่า ชาวกัมพูชาภาคภูมิใจในมรดกละครโขน และนี่คือความภาคภูมิใจของชาวกัมพูชาทั้งหมด โดยหลังจากได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว ทางกัมพูชาจะได้รับการสนับสนุนจากยูเนสโก และได้รับเงินกองทุนที่จะช่วยให้รัฐบาลกัมพูชาสามารถโปรโมทละครโขนให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้
ในการประชุมที่กรุงพอร์ตลูอิส ประเทศมอริเชียส ได้มีการหารือในหัวข้อ “วัฒนธรรมอันจับต้องไม่ได้” ที่คู่ควรแก่การปกป้องคุ้มครองอย่างเร่งด่วน โดยประกอบด้วยรายชื่อวัฒนธรรมราวๆ 50 ชนิด จากหลายประเทศ
โดยหนึ่งในนั้นก็คือ “ละครโขน” แบ่งออกเป็น “โขนไทย” และ “ละครโขนกัมพูชา” ที่มีอยู่ในรายชื่อด้วย แต่การพิจารณาขึ้นทะเบียนนั้นได้เรียงลำดับตามอังกฤษภาษาอังกฤษ ทำให้ละครโขนของกัมพูชาได้รับพิจารณาและประกาศขึ้นเป็นมรดกได้ก่อน
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องการขึ้นทะเบียนโขนกลายเป็นข้อพิพาทบนโลกอินเทอร์เน็ตระหว่างชาวไทยและชาวกัมพูชา หลังจากเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลไทยประกาศว่าได้ยื่นเรื่องขอให้ยูเนสโกรับรองโขนไทย ทำให้ชาวกัมพูชาออกมาอ้างความเป็นเจ้าของโขน อย่างไรก็ตาม โขนไทยและละครโขนของกัมพูชานั้นมีพื้นฐานมาจากอินเดียเหมือนกัน และในการประชุมของยูเนสโกนั้นยังเหลือการพิจารณามรดกทางวัฒนธรรมจากอีกหลายประเทศ รวมถึงโขนจากประเทศไทยด้วย ซึ่งคาดว่า การพิจารณาจะเริ่มขึ้นในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และคาดว่าจะรู้ผลหลังจากนั้นไม่นานหรือในวันพรุ่งนี้