พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 5/2561 ที่ตึกสันติไมตรี หลังใน ทำเนียบรัฐบาล เมื่อตอนเช้าวันที่ 30 พ.ย.2561 โดยกล่าวแก่ที่ประชุมตอนหนึ่งว่า
“วันนี้ยังมีปัญหา ผมกลับมาก็ไม่ได้พัก ไม่ได้ไปเที่ยวไหน ตามจี้ตูดถามกันทุกเรื่อง ผมจึงต้องพูดในทุกเรื่อง ถ้าฟังผมบ่นก็อย่าเพิ่งเบื่อกัน เพราะผมจะบ่นเป็นครั้งสุดท้ายจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ที่ผ่านมารัฐบาลอื่นไม่ทำอะไรเพราะกลัวเสียคะแนนเสียง อย่างเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง สื่อข้างนอกก็ถามกันอย่างเดียว เรื่องการแบ่งเขต แม่ง จะตายห่ากันให้หมดหรืออย่างไรก็ไม่รู้กับไอ้เรื่องซังกะบ๊วยพวกนี้ ก็ว่ากันไปตามกติกาจะผิดหรือถูกผมไม่รู้ กติกาว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น ผมจะไปรู้อะไร นายกฯ จะรู้เรื่องการแบ่งเขตหรือ ไม่เกี่ยวหรอกใครได้ใครเสียก็ว่าไป วันนี้เขาแบ่งด้วยอะไร เขาแบ่งด้วยประชากรที่เพิ่มขึ้นกับเรื่องของพื้นที่ วันนี้เปลี่ยนไปเท่าไหร่แล้ว 4-5 ปี จะเอาแบบเดิมตลอด ติดพื้นที่แบบเดิมตลอด ไม่ว่าจะปรับอย่างไร ตั้งอย่างไร แก้อย่างไร ถ้าคนไม่เลือกเลยพรรคไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น ก็แล้วแต่โชคชะตาก็แล้วกัน ประเทศไทยไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เหลือแต่คนในห้องนี้คงเข้าใจผมนะ”
หลังเลิกประชุมระหว่างเดินกลับคึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ หยุดให้สัมภาษณ์นักข่าว
“4 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพ ทำให้คนเข้ามาเที่ยว และประชาชนทำงานได้ ดังนั้นจึงขออย่าทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะผมไม่อยากให้เกิด และไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น เชื่อว่าทุกคนรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ส่วนการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยนั้นจะเป็นไปตามกำหนดเวลา หากจะมีการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นเรื่องของกกต. เช่นเดียวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ก็เป็นเรื่องของกกต.ที่มีการบอกกันว่าเป็นการแบ่งเขตเพื่อเข้าข้างฝ่ายนั้น หรือฝ่ายนี้ ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายใด และไม่ได้สั่งการใดๆดังนั้นกกต.จึงปรับเปลี่ยนการแบ่งเขต โดยดูระยะเวลา4-5 ปีที่ผ่านมา จำนวนประชากรเปลี่ยนแปลงไป เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบ เสียเปรียบ แต่ถ้าทุกคนยืนยันจะเอาแบบเดิม แล้วประเทศชาติจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร การแบ่งเขต ไม่ว่าจะเข้าพรรคใครก็ตาม ถ้าประชาชนไม่เลือกก็จบ อย่าดูถูกประชาชนเขา ประเทศนี้ไม่ได้อยู่ด้วยคนไม่กี่คน แต่อยู่ด้วยประชาชนทั้งประเทศ มีนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบาย พร้อมให้ประชาชนมีส่วนร่วม ด้วยการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งประชาธิปไตยต้องประกอบด้วย ธรรมาภิบาล กระบวนการที่เป็นสากล ความพร้อมของประชาชน ที่จะเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นต้องสร้างการรับรู้ให้ทุกภาคส่วนได้เข้าใจว่าอะไรคือประชาธิปไตย เนื้อในของประชาธิปไตยอยู่ที่ใด เพื่อที่จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และแผนแม่บท ให้ไทยเป็นประเทศที่พ้นกับดักรายได้ปานกลาง ในอนาคตก็ให้คนรุ่นใหม่ได้ทำต่อไป”
ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ประเด็นที่พรรคการเมืองไม่พอใจการแบ่งเขชตเลือกตั้งว่า
“ต้องไปถาม กกต. ผมไม่ไม่ทราบ และไม่ได้เกี่ยวข้อง ส่วนที่มีการอ้างว่าเป็นเพราะคำสั่งคสช.ที่ 16/2561ให้อำนาจ กกต.มากเกินไปการที่ต้องมีคำสั่งดังกล่าวเนื่องจากมีคนไปร้องเรียนว่าต้องให้อำนาจกับกกต. ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และเกรงว่าจะไม่ทันกรอบระยะเวลา”
นักข่าวถามมีการวิพากษ์วิจารณ์การแบ่งเขตของ กกต.เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บางพรรค ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น พล.อ.ประวิตร คอบ
“ผมไม่รู้ แต่ทุกคนก็อยากจะได้เขตของตัวเอง พอได้เขตของตัวเองก็ว่าดี พอไม่ได้ก็บอกไม่ดี ทุกพรรคไม่ใช่ว่าจะได้กันหมดก็มีทั้งได้และไม่ได้ จะให้ไปเอาใจทุกพรรคก็ไม่ได้”
นักข่าวถามย้ำ มีการมองว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต.เป็นไปตามใบสั่งของคสช. พล.อ.ประวิตร ตอบ
“ คสช.ไม่ใช่คนไปแบ่งเขตเลือกตั้ง เราไม่ได้เกี่ยวข้อง ยืนยันไม่ได้ไปก้าวก่ายการทำงานของกกต. เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเขตที่ตัวเองอยากได้เมื่อได้ก็ดี แต่เมื่อไม่ได้ก็ร้องเรียน พรรคการเมืองมี 84 พรรค จะได้ทุกพรรคก็เป็นไปไม่ได้”
นักข่าวถาม เป็นห่วงว่าจะมีการบอยคอตการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบ
“ ไม่กลัวและเชื่อว่าไม่มีการบอยคอต พรรคที่ออกมาร้องมีเพียงไม่กี่พรรค ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ว่าอะไร การที่มีพรรคการเมืองไม่เข้าร่วมการหารือกับคสช.และพล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 7 ธ.ค.2561 คงไม่กระทบกับแนวทางของคสช.ที่ได้วางไว้ ถ้าไม่มาก็อย่ามา จะไปง้อทำไม แต่คสช.ก็อยากให้มาคุยกันว่ามีเรื่องอะไรที่สงสัยก็จะได้ถามคสช.และกกต. การพูดคุยกันครั้งที่ผ่านมาที่ผมเป็นประธาน ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มาเข้าร่วมหารือ แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร ยืนยันว่ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว และเราก็ได้สัญญากับต่างประเทศเอาไว้แล้วว่าจะมีการเลือกตั้ง รวมถึงประชาชนส่วนใหญ่ก็อยากเลือกตั้ง การที่รังสิตโพลของมหาวิทยาลัยรังสิต ประกาศผลการสำรวจว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ มีคะแนนนำให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัยถือเป็นเรื่องดี ผมก็อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพราะทุกอย่างจะได้จบ และเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่ผ่านมาเราก็ใช้นโยบายที่เป็นประชาธิปไตย ทำให้ไม่เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ขณะนี้ก็ความสงบเรียบร้อยมาแล้ว 4-5 ปี ผมเชื่อว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว หากประชาชนอยากได้ใครเป็นผู้นำก็ไปเลือกเอา ผมอยากให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่บริหารบ้านเมืองต่ออีก 4 ปี เพราะท่านทำงานดีและทำในทุกเรื่อง เพื่อประชาชนให้มีความอยู่ดีกินดี อยากให้ทำอีก4 ปี เพื่อทุกอย่างจะได้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ตอนนี้ก็ถือว่าประเทศดีขึ้นมากแล้ว ”
matemnews.com
30 พฤศจิกายน 2561