Home ข่าวประชาสัมพันธ์ คณะบริหารธุรกิจ ม.รังสิตจัดทำโครงการ RBS Creative Innovation Start-up เพื่อแข่งขันทำแผนธุรกิจ

คณะบริหารธุรกิจ ม.รังสิตจัดทำโครงการ RBS Creative Innovation Start-up เพื่อแข่งขันทำแผนธุรกิจ

904
0
SHARE

 

นักศึกษา และอาจารย์จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมจัดทำทำโครงการ Rangsit Business School (RBS) Creative Innovation Start-up เพื่อแข่งขันกันเขียนแผนธุรกิจ รวมถึง มีการทดลองสร้างผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของสินค้าหรือ บริการต้นแบบต่างๆ และมาออกบูธโชว์สินค้าต่างๆ ณ ห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ในวันที่ 1 ธันวาคม 2561 โดยมี ผศ.ดร.รุจาภา แพ่งเกษร คณบดี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต มากล่าวเปิดงาน พร้อมพูดสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่ เติบโตเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ภายในงานมีนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 400 คน นอกจากนี้ การแข่งแผนธุรกิจRBS ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ได้แก่ ดร.พยัต วุฒิรงค์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ดร.ศุภฤกษ์ อร่ามกิจโพธา ผู้จัดการเขตการขาย ฝ่ายตลาดรัฐและอุตสาหกรรม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ คุณคณวัฒน์ อัศวฉัตรโรจน์ Marketing Manager บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด มาเป็นกรรมการตัดสินแผนธุรกิจยอดเยี่ยม พร้อมทั้งให้คำแนะนำต่างแก่นักศึกษาเพื่อใช้นำไปใช้ประกอบการทำธุรกิจได้จริง

โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ “CoCoDee กะทิข้นหวาน” ซึ่งผลิตกะทิที่มีรสชาติคล้ายกับนมข้นหวานแต่มีกลิ่นหอมของกะทิ นางสาว ณิชาภา วิเศษเสาร์ นักศึกษา ชั้นปีที่ 4 จากคณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด และเป็นตัวแทนจากทีมที่ชนะเลิศ ได้กล่าวว่า “ไอเดียผลิตภัณฑ์เกิดจากการที่มองเห็นคุณค่าของกะทิที่ทุกคนรู้จัก และคุ้นเคยกันดีที่ใช้ประกอบทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ดึงเอกลักษณ์และข้อดี มาพัฒนาต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนสามารถรับประทานได้ในทุกเวลา มะพร้าวที่นำมาทำกะทิถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน และปัจจุบันเองประเทศไทยเรานั้นกำลังประสบปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกมะพร้าวมากถึง 1.2 ล้านไร่ มีผลผลิตประมาณ 1 ล้านตันต่อปี เราจึงนำเอาวัตถุดิบที่มีในประเทศ นั่นก็คือ มะพร้าว มาพัฒนา แปรรูป ต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่า อีกทั้งเราอยากจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้ด้วย จุดเด่นของCocoDee คือ ผลิตภัณฑ์กะทิข้นหวานที่ให้พลังงานต่ำ เพราะเรานำสารให้ความหวานแทนน้ำตาลมาใช้ ซึ่งแตกต่างจากนมข้นหวานทั่วไปที่ใช้น้ำตาลจึงให้พลังงานต่ำกว่าถึงครึ่งหนึ่ง CocoDee เน้นการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติจึงไม่มีการเติมวัตถุกันเสีย และที่สำคัญที่สุดของ CocoDee นั่นก็คือ เราถือเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน ที่มีการนำเอากะทิมาใช้แทนนม ซึ่งกะทิถือเป็นผลผลิตจากธรรมชาติ อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงมีไขมันอิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและยังปราศจากไขมันทรานส์อีกด้วย”

 

ส่วนแผนธุรกิจที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น Smart Farm ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยเกษตรกรในการค้าขายสินค้า ยังมี แผนธุรกิจ แนวแอปพลิเคชันต่างๆ มากมาย อาทิ We Share We Care แอปพลิเคชันเช่าและให้บริการรถเข็นผู้สูงวัย ตามห้างสรรพสินค้า KARAWA แอปพลิเคชันเปรียบเทียบค้นหาคอร์สเรียนต่างๆ

ดร.เฉลิมพร เย็นเยือก อาจารย์ประจำ สาขาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต และประธานโครงการ RBS Creative Innovation Start-up ได้ระบุถึง วัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อสร้างผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ และมีความสามารถในการทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในวิชาแผนธุรกิจ ซึ่งนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย ของคณะบริหารธุรกิจ ต้องเข้าร่วม เพื่อนำความรู้ที่เรียนมาตลอดระยะเวลา ที่อยู่ในมหาวิทยาลัย มาประยุกต์ใช้โดย ฝึกฝนในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับผู้อื่น การนำไอเดียมาประยุกต์ใช้เขียนแผนงาน การทำการวิเคราะห์ และ ลงภาคปฎิบัติจริง ตั้งแต่การสำรวจตลาด การทดลองผลิตสินค้าต้นแบบ และ การออกบูธ ทำอีเวนท์เพื่อขายสินค้าและบริการ

นางสาว ธัญญพัทธ์ ฮ้อประเสริฐกุล คณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงินและการลงทุน ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยรังสิต ได้กล่าวว่า “วิชาแผนธุรกิจ เป็นการแนะแนวทางประกอบธุรกิจ ตั้งแต่กระบวนการคิด ทำการสำรวจวิจัยตลาด รวมถึงศึกษา วิธีการผลิต การให้บริการ การขนส่ง และช่องทางต่างๆที่จะสื่อไปยังผู้บริโภค โดยมีอาจารย์และบุคคลากรที่เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจเป็นที่ปรึกษาและแนะแนวทางการประกอบธุรกิจตั้งแต่การเริ่มต้นหาไอเดียที่แปลกใหม่ น่าสนใจ กลยุทธ์ทางการตลาดที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงการวางแผนและควบคุมทางด้านการเงินของธุรกิจ การวิเคราะห์ความเสี่ยงทางด้านการเงิน”

คุณคณวัฒน์ อัศวฉัตรโรจน์ หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินแผนธุรกิจ “จากที่ได้มาเป็นคณะกรรมการด้านการตลาดให้กับRBSในสามครั้งล่าสุด เห็นได้ชัดว่านักศึกษาคณะบริหาร ม.รังสิตมีความเข้าใจ และเล็งเห็นโอกาสจาก ‘Mega Trends’ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้แล้วนักศึกษายังสามารถประยุกต์แผนการตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะการใช้ Platform Online ต่างๆที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด และที่สำคัญคุณภาพของงานนักศึกษาได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี แสดงให้เห็นว่าอาจารย์ของคณะบริหารธุรกิจมีความใส่ใจต่อนักศึกษาโดยมุ่งหวังให้นักศึกษาสามารถทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่ธุรกิจนั้นเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลาจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้”