พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะไปขึ้นคเรื่องบินที่สนามบิน บน6 กองทัพอากาศ ดอนเมือง เมื่อตอนเช้าวันที่ 3 ธ.ค.2561 ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ
ระหว่างเดินผ่านห้องโถง อาคารรับรองสนามบิน นักข่าวส่งคำถามแรก ประเด็นพรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อให้ลำดับที่ 1 ให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคได้มีการทาบทามตัวท่านแล้วหรือไม่ ปรากฏว่าวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ มาในลีลา ไม่ตอบคำถาม แต่ส่งยิ้มให้นักข่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในท้องที่ ที่อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ มเอตอนเช้าวันที่ 3 ธ.ค.2561 โดยมีประชาชนมารอรับประมาณ 20,000 คน โดยได้กล่าวแก่ประชาชน ว่า
“ไม่ว่าใครก็ตามเข้ามาเป็นรัฐบาล นโยบายที่ออกมาต้องชัดเจนว่าจะทำอะไรเพื่อใครและต้องมีธรรมาภิบาล อย่างไรก็ตามตั้งแต่ผมเป็นนายกฯมา ครั้งนี้ถือว่าได้พบปะกับประชาชนจำนวนมากที่สุด จึงขอขอบคุณทุกคนด้วยความจริงใจ แม้อากาศจะร้อนแต่ทุกคนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส จึงเป็นอีกวันที่ผมมีความสุข ไม่ได้มาชัยภูมิแล้วปากหวาน แต่มีความสุขที่เห็นรอยยิ้มจากทุกคนถือเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในโลกนี้ รอยยิ้มในใบหน้าของคนไทยมีมิตรไมตรี มีความเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่และสมานฉันท์ สิ่งเหล่านี้จะทิ้งไปไม่ได้ ขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของประเทศ ทั้งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่อยู่กับเรามาหลายยุคสมัยเราจะทิ้งไม่ได้ ขณะที่วันนี้ผมเองในฐานะนายกฯ ลงมาในระดับนโยบาย รวมถึงส่วนกลาง ส่วนท้องถื่น มาร่วมกันในแบบสานพลังประชารัฐ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่มาติดตามงานเพื่อทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ 4 ปีที่ผ่านมามีการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำได้มากกว่าช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้เปรียบเทียบกับใครแต่ต้องทำให้ทั่วถึง ตรงไหนไม่ชอบก็ต้องทำและตรงไหนไปไม่ได้ก็ต้องไป รัฐบาลนี้ทำแบบนี้ รัฐบาลหน้าก็ต้องทำแบบนี้ รวมถึงประชาชนก็ต้องรักรัฐบาลทุกรัฐบาล เพราะรัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบายลงมา หากประชาชนร่วมมือก็เกิดขึ้นได้ทั้งหมด จึงอยากให้โครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงนี้เป็นประวัติศาสตร์และเป็นตัวอย่างโครงการอื่นๆ โดยยึดผลประโยชน์ของชาติและประชาชนมาก่อน การทำโครงการอะไรไม่ใช่ตามใจคนนั้นคนนี้ แต่ต้องมีหลักการและมีความเห็นประชาชน หลักการประชาธิปไตยที่ถูกต้องต้องยอมเสียงส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันอย่าแบ่งคนทั้งประเทศออกเป็นชนชั้น ต้องแบ่งตามรายได้และการพัฒนา แต่ทั้งหมดตอบสนองความต้องการของประเทศ เราจึงต้องสร้างกลไกขึ้นมาถ้าไม่บริหารแบบนี้ให้ตามที่คนนั้นคนนี้เรียกร้องก็จะไม่เกิดผลเท่าที่ควร ในปีหน้าประเทศไทยจะเป็นประธานการประชุมอาเซียน ใครจะว่าอะไรก็แล้วแต่ไทยเป็นประธานแน่นอน ไม่มีใครมาปิดกั้นอะไรทั้งสิ้น ผมขออย่างเดียวให้เป็นการประชุมที่สงบ เข้าใจไหม เราเคยเป็นมาแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่สำเร็จจึงเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขให้ได้ ประชาชนทำให้ผมได้หรือไม่ และผมขอสองเรื่อง การเลือกตั้งให้เรียบร้อยสงบ และการเป็นประธานอาเซียนก็ต้องสงบ อย่าให้ใครมาทำให้เกิดปัญหาอีก มันเสียชื่อประเทศไทยในชาวโลก อีกทั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้ก็จะมีพิธีบรมราชาภิเษก วันนี้พระองค์ท่านทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะมีพิธีพระบรมราชาภิเษกทรงเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นหลักสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ผมรู้ทุกคนมีความจงรักภักดีกับสถาบันอยู่แล้ว ก็ขอให้ทุกคนช่วยกัน สิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำไว้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสืบสานให้เกิดความต่อเนื่อง และสิ่งที่ทรงรับสั่งกับผมและรัฐบาลเสมอ คือ ดูแลประชาชนให้มากที่สุด รวมถึงทำสิ่งที่ประชาชนต้องการให้ได้โดยเร็ว โดยแก้ไขเรื่องที่ติดขัดต่างๆและชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจ สิ่งเหล่านี้ทุกคนจึงต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ เราทุกคนต้องช่วยกันรักษาแผ่นดินผืนนี้ รักษาป่าไว้ เพื่อให้ทุกคนมีที่ดินทำกิน โดยหลายอย่างเราต้องแก้ไขให้ได้ในรัฐบาลนี้และรัฐบาลต่อๆไป อย่างไรก็ตามวันนี้เรามีทั้งวิกฤตและโอกาส จึงขออย่าทำลายโอกาสด้วยความขัดแย้ง ความเห็นต่างและความรุนแรง หรืออะไรที่กระทบต่อประเทศชาติโดยรวมขึ้นอีก นอกจากนี้ย้ำว่ารัฐบาลได้เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชน ซึ่งสามารถเอาที่คืนได้ถึง 3,000-4,000 ไร่ มูลค่าหลายหมื่นล้านบาทแล้ว และคืนโฉนดให้กับประชาชน โดยจะเดินหน้าต่อในทุกจังหวัด หลายอย่างกำลังเกิดขึ้นรวมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ในปีแรกมียอดคนลงทะเบียนไม่มาก แต่เมื่อปีต่อมาเพิ่มมาอีกแสนคน แต่กลับมีคนพูดว่ารัฐบาลทำให้คนจนมากขึ้น มันไม่ใช่ จึงต้องรู้ว่ารัฐบาลจะดูแลอย่างไรซึ่งประเทศรวยๆ ก็ทำเช่นนี้ ย้ำว่าปัญหาเรื่องการเลือกตั้งต้องไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้นี้ ผมยินดีที่ประเทศไทยจะกลับไปสู่ประชาธิปไตย แต่ก็ขึ้นอยู่กับกฎกติกา กฎหมายต่างๆ ที่ออกมา จะทำอะไรก็ตามเราต้องเคารพกติกา ไม่ใช่สู้กับกติกาและกฎหมาย สมาคมอะไรต่างๆ ก็ต้องไม่ทำอย่างนั้น โดยเฉพาะสมาคมเกษตรกร ข้าว ยาง ปาล์ม ที่ทุกวันนี้มารายปี มารายอาทิตย์ เหมือนเวียนกันมาตามอักษร จาก ข ไข่ เดี๋ยวไป ย ยักษ์ ป ปลา ไปส เสือ สัปรด ไป ม ม้า มันสำปะหลัง วนอยู่อย่างนี้ มันต้องจัดสรรปันส่วนใหม่ วันนี้หลายคนฟังผมอาจจะเวียนหัว ผมพูดเองก็ยังเวียนหัว เพราะมีหลายเรื่องพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามหากทุกคนร่วมกันผนึกกำลังกับรัฐบาลเดินไปข้างหน้าด้วยกัน อย่าแยกกันเดินแล้วรวมกันตี โดยสิ่งที่รัฐบาลทำวันนี้จะถูกสืบสานในรัฐบาลต่อไป ดังนั้นฝากประชาชนดูแลรัฐบาลใหม่ให้ดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นใครเข้ามาก็ยังไม่รู้”
คลิกชมรูปของเว็บไซต์รัฐบาลไทย
Matemnews.com
3 ธันวาคม 2561
