พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประธานในการประชุมติดตามผลการซ้อมใหญ่และเตรียมความพร้อมกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก” เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2561 ที่ห้อง 606 สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า เมื่อตอนเช้าวันที่ 4 ธ.ค.2561 โดยมีคณะกรรมการฝ่ายเส้นทางและขบวนจักรยาน, คณะกรรมการลงทะเบียน, คณะกรรมการฝ่ายจราจรและขนส่ง, คณะกรรมการฝ่ายการแพทย์และสาธารณสุข, คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัย, คณะกรรมการฝ่ายส่งกำลังบำรุง และคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ร่วมประชุม หลังเลิกประชุม พล.อ.ท.ภักดี แถลงข่าวแก่สื่อมวลชน ว่า
หลังจากการฝึกซ้อมใหญ่ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรการซ้อมกิจกรรมทรงเห็นประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมมีความสุข ทรงมีกระแสรับสั่งผ่านมาทางตนว่า “ทรงมีความสุข ที่เห็นประชาชนมาร่วมกิจกรรม Bike อุ่นไอรัก มีความสุข ขอชมเชยผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคน”
ในวันที่ 8 ธ.ค.61 จะมีการซ้อมใหญ่พิธีเปิดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ เวลา 10.00 น.เปิดจุดคัดกรอง 4 จุด ให้ผู้มาร่วมกิจกรรมซ้อมใหญ่เข้าภายในงาน โดยขอเชิญชวนให้แต่งชุดไทยสวยงามเหมือนวันจริง โดยจะมีการจัดเตรียมอาหารให้ลิ้มลองบางส่วน
จากนั้นเวลา 16.00 น.คณะสาวงามมิสยูนิเวิร์ส 2018 ทั้ง 94 ประเทศ และผู้ดูแล จะมาเยี่ยมชมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ด้วย
สำหรับวันที่ 9 ธ.ค.61 เวลา 13.30 น.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯ ถึงพระลานพระราชวังดุสิต ทรงสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วประทับพลับพลาที่ประทับ โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าฯ รับเสด็จด้วย
ในเวลา 13.39 น.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ โดยมี พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบบังคมทูลกล่าวถวายรายงาน และมีการแสดงเปิดงานของกระทรวงวัฒนธรรม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกดปุ่มแพรคลุมป้ายงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการด้านทิศตะวันตก โดยประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งมาทางทิศเหนือ ทอดพระเนตรการแสดงเห่เรือ บนเรือพระที่นั่ง ที่จัดถวายโดยกองทัพเรือ จากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ร.10 และประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งมาที่สนามเสือป่า สำนักพระราชวัง ทรงเยี่ยมชมร้านจิตอาสา 904, ร้านศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และร้านพระบรมวงศานุวงศ์ ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งวนรอบงานอุ่นไอรัก จอดเทียบมัจฉาพาโชค พระราชทานหมวกและจักรยานแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทูลฯ ลากลับ สมเด็จพะเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นชุดทรงจักรยาน แล้วทรงนำจักรยานออกจากพระลานพระราชวังดุสิต มายังจุดสตาร์ท ซึ่งอยู่หน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ถนนราชดำเนินนอก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบีบแตร ให้สัญญาณขบวนจักรยาน Bike อุ่นไอรัก พร้อมทรงจักรยานนำขบวน
ทั้งนี้ ตลอดงาน Bike อุ่นไอรัก จะมีการเปิดเพลง “ปั่นอุ่นไอรัก” ควบคุมการผลิต เนื้อร้อง ทำนอง และเรียบเรียงทำนองโดย บอย โกสิยพงษ์ ขับร้องโดยศิลปินชื่อดังหลายคน อาทิ นภ พรชำนิ, นภัทร อินทร์ใจเอื้อ, อภิชา สุขแสงเพ็ชร และบอย โกสิยพงษ์ ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งให้เพิ่มทำนองเพลงให้สนุกสนาน
จึงขอเชิญชวนประชาชนแต่งชุดไทยเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างพร้อมเพรียงกัน นอกจากนี้ ประชาชนสามารถเฝ้าฯ รับเสด็จ ได้ตลอดเส้นทางการปั่น บริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนินนอก และริมบาทวิถีทั้งสองฝั่ง ทั้งนี้ ในวันที่ 9 ธ.ค.จะมีประกาศงดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพระบรมมหาราชวัง เพื่อให้เส้นทางปั่นจักรยานมีความปลอดภัย
พล.อ.ท.ภักดี กล่าวอีกว่า เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธ.ค.61 จะมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาทั่วประเทศโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ทั้งนี้ จากการรายงานของกระทรวงสาธารณสุข ผลจากปฏิบัติกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ที่ผ่านมา พบว่าประชากรยุงลายหายไป สถิติผู้ป่วยไข้เลือดออก ลดลงร้อยละ 60 ถือเป็นการป้องกันดีกว่าสูญเสียงบประมาณรักษาพยาบาลของประเทศ ขณะที่กิจกรรม Bike อุ่นไอรัก เป็นการส่งเสริมสุขภาพ ช่วยป้องกันโรคเบาหวานและโรคหัวใจแก่ประชาชน
ด้าน พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงผลการซ้อม การลงทะเบียน การควบคุมขบวน ว่า การลงทะเบียนเริ่มเปิดลงทะเบียนจุดแรกตี 5 ที่ลานคนเมือง ซึ่งเป็นการปั่นสำหรับไบค์ครอบครัว มีคนร่วมปั่น 350 คน และกลับมาถึงเวลา 10.30 น.ส่วนอีก 9 จุด มีคนมาร่วมซ้อมปั่น ประมาณ 2,370 คน คิดเป็นร้อยละ 2.06 คน ช่วงเวลาลงทะเบียน ตั้งแต่ 12.00 – 14.00 น.พบว่ามีคนมาลงทะเบียนช่วงชั่วโมงสุดท้ายจำนานมาก อาจเกิดปัญหาความคับคั่ง จึงขอความร่วมมือประชาชนให้มาลงทะเบียนแต่เนิ่นๆ เพื่อเช็คสภาพรถจักรยานให้พร้อมที่สุด และมีการแสดงดนตรีเพื่อความผ่อนคลาย ร่วมถึงได้มาเตรียมพร้อมร่างกาย
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาสำคัญที่พบคือ นักปั่นจักรยานมีชื่อกับป้ายแท็กไม่ตรงกัน, นักปั่นแทรกกลางทาง, ลงทะเบียนจุดหนึ่ง แต่ไปลงปั่นอีกจุดหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนพิการร่วมปั่น 300 คน ณ สนามม้านางเลิ้ง จึงเสนอให้ผู้พิการมีจุดรวมพลที่ลานคนเมือง โดยเส้นทางการปั่นเริ่มจากลานคนเมือง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยกผ่านฟ้า ราชดำเนินนอก สิ้นสุดที่วังปารุสกวัน โดยใช้ชื่อขบวนแอล จึงประสานงานกับกรุงเทพมหานครเตรียมอำนวยความสะดวกขบวนแอล ซึ่งจะมีผู้พิการ 150 คน และผู้ดูแลคนพิการ 150 คน
แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า สำหรับการควบคุมขบวนจะมีเรื่องการถวายความเคารพของขบวนจักรยานที่เฝ้าฯ รอรับเสด็จ เนื่องจากประชาชนมีความเหนื่อยล้าแล้ว จึงขอให้ถวายความเคารพด้วยกิริยาที่สำรวม ส่วนจักรยานหันไปทิศทางที่ไปและเสด็จฯ ผ่าน จากนั้นถวายความเคารพ สำหรับในจุดพระประแดงอาเขต และ บริษัท ศุภนาวาฯ จะจัดให้มีแสงสว่างให้เพียงพอ กรณีปั่นต่อไม่ไหวให้ชิดซ้าย หากไม่สบายหรือจะเป็นลมให้เจ้าหน้าที่พาไปพบแพทย์ทันที
อย่างไรก็ตาม จะเพิ่มจุดพักนักปั่นริมทาง เพื่อเป็นพื้นที่รวบรวมผู้ป่วยเพื่อตรวจเช็คความพร้อมของร่างกาย หากไม่สามารถปั่นต่อจะมีระบบจัดส่งกลับต้นทาง เบื้องต้นกำหนดทุกระยะ 5 กิโลเมตร
“จากภาพรวมการซ้อมในวันนั้น ส่วนใหญ่ประชาชนรับการรักษาพยาบาล เกิดจากสภาพร่างกาย สภาพอากาศ และสภาพจักรยาน จากคนร่วมปั่น 2,370 คน มีคนมาตรวจลมยาง 780 คน เติมจาระบี 448 คน เช็คระบบเบรก 389 คน แนะนำให้ประชาชนตรวจสอบรถจักรยาน โดยสามารถดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ www.BikeUnAiRak2018.com
ทั้งนี้ ผู้ที่ยังไม่มารับเสื้อและสิ่งของพระราชทาน ในวันที่ 1 – 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา สามารถรับสิ่งของพระราชทานได้ที่ อาคาร 15 กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ ในวันที่ 6 – 7 ธ.ค.นี้ เวลา 08.00 – 16.00 น.สอบถามได้ที่ 0-2572-1525 เฉพาะพื้นที่ กทม.
ยอดสรุปผู้ลงทะเบียนรับสิ่งของพระราชทานในระบบ รวมทั้งสิ้น 673,447 คน พื้นที่ กทม.จำนวน 103,726 คน, ภูมิภาค 76 จังหวัด จำนวน 569,721 คน”
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงปฏิบัติงานทางการแพทย์และสาธารณสุข ว่า ในวันฝึกซ้อมเสมือนจริงที่ผ่านมา มีบุคลากรทางการแพทย์ร้อยละ 80 จากที่วางไว้ ทีมกู้ชีพชั้นสูง 67 ทีม ทีมกู้ชีพพื้นฐาน 113 ทีม ทีมแพทย์ปั่น 49 คน จากจำนวนทั้งหมด 85 คน พบว่าผู้ป่วยเป็นลม 41 ราย ตะคริว 31 ราย อุบัติเหตุ 15 ราย อื่นๆ 78 ราย ส่วนปฐมพยาบาลมีการแจกแอมโมเนียล่วงหน้า 440 ราย ทำแผล 32 ราย ขอยา 174 ราย อื่นๆ 193 ราย ส่วนกรณีนำส่งโรงพยาบาล จำนวน 16 ราย นักปั่น 10 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ตะคริว 2 ราย หน้ามืดเป็นลม 5 ราย
matemnews.com
4 ธันวาคม 2561