พรรคภูมิใจไทย จัดเสวนา ในหัวข้อ “โอกาสของกัญชาไทย มิติเศรษฐกิจ และการแพทย์” ณ ที่ทำการพรรค ถนนพหลโยธิน บางเขน เมื่อบ่ายวันที่ 28 ม.ค.2562 ประกอบด้วย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ
นพ.สมยศ กิตติมั่นคง ผู้เขียนหนังสือ “กัญชา คือ ยารักษามะเร็ง”
นายบัณฑูร นิยมาภา หรือ “หมอตู้” ปราชญ์ชาวบ้านด้านกัญชา
ผู้ร่วมเวเสวนาต่างเห็นพ้องให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ(ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เพื่อให้กัญชาไทยสามารถปลูกได้อย่างเสรี ภายหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เห็นชอบให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และเปิดโอกาสให้เฉพาะหน่วยงานรัฐและเอกชน แต่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงได้ กฎหมายทมี่แก้ใหม่ยังไม่ครอบคลุมศักยภาพด้านอื่นของพืชกัญชา เพราะหากเปิดให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้อย่างเสรี กัญชาจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สามารถแก้ปัญหาความยากจนของคนไทย และเชื่อว่าภายในระยะเวลา 5-10 ปี จะทำให้เกษตรกรไทยปลดหนี้ เพราะกัญชาสายพันธุ์ไทยถือว่ามีคุณภาพดีเป็นอันดับ 1 ของโลกและสภาพภูมิประเทศของไทยเอื้ออำนวยต่อการปลูกกัญชา จึงมีความฝันว่าอยากเห็นประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกัญชาโลก
หลังแสดงความเห็นกันอย่างเต็มที่แล้ว นายศักดิ์สยาม เป็นผู้สรุปว่า กฎหมายที่สนช.ให้ความเห็นชอบไปแล้วยังมีข้อจำกัด เอื้อให้บริษัทที่มีความพร้อม ในขณะที่ประเทศไทยมีปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้เรื่องกัญชา จึงควรเปิดกว้างให้คนไทยเข้าถึงกัญชาอย่างแท้จริง พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยต่อเรื่องสิทธิบัตรกัญชาที่กระทรวงพาณิชย์ได้ให้บริษัทต่างชาติที่จดทะเบียนในประเทศไทย ยื่นขอจดสิทธิบัตรกัญชาและสารสกัดจากกัญชาไว้แล้วหลายราย ซึ่งขัดกฎหมาย เนื่องจากพืชกัญชายังเป็นยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษของไทย ดังนั้นบริษัททั้งหลายจึงไม่มีสิทธิยื่นขอจดสิทธิบัตร สิทธิบัตรกัญชาควรเป็นของคนไทยทั้งประเทศ โดยรัฐบาลต้องเป็นผู้รับจดสิทธิบัตร ดังเช่น แคลิฟอร์เนียโมเดล ที่ประชาชนมีสิทธิถือครองกัญชาจำนวน 6 ต้นต่อครอบครัว ในราคาต้นละประมาณ 30 บาท โดยขออนุญาตจากรัฐบาล มีการประเมินว่า กัญชา 1 กิโลกรัมมีราคา 70,000 บาท เมื่อ 1 ครอบครัวปลูก 6 ต้น ก็จะมีรายได้ 420,000 บาทต่อปี แต่หากผู้ใดประสงค์จะดำเนินการในเชิงพาณิชย์ รัฐบาลต้องมีการเปิดประมูล เช่นเดียวกับการประมูลคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ผลประโยชน์ตกแก่ประเทศ ขณะนี้ พรรคภูมิใจไทยได้ร่างกฎหมายแก้ไขพ.ร.บ.ยาเสพติด 2522 เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีสาระสำคัญ คือ ให้มีการปลูกกัญชาได้เสรี หากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาล จะผลักดันกฎหมายนี้ทันที หรือหากไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาล ถ้าพรรคไหนที่จะชวนพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล ต้องรับนโยบายนี้ถ้าไม่รับเราก็ไม่ร่วม มีคนกังวลว่า กัญชาจะมอมเมาคนไทย แต่จากการเสวนาวันนี้ทำให้เห็นว่า มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เหล้ากับเบียร์อันตรายยิ่งกว่า เพราะกัญชาไม่เคยทำร้ายใคร และเชื่อว่าเมื่อกฎหมายออกมาก็จะมีมาตรการควบคุมเป็นอย่างดี เพื่อแลกกับความคุ้มค่าของการมีกัญชาเสรี ซึ่งจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจ รักษาความยากจน และเป็นสมบัติของคนทั้งประเทศ ดังสำนวน ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทย จะทำให้หลังบ้านของทุกคนมีกัญชาเสรี
Matemnews.com
28 มกราคม 2562