นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อตอนเช้าวันที่ 6 ก.พ.2562 ว่า ศาลปกครองกลางได้มีหมายกำหนดนัดให้
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(กก.วล.)
นายกรัฐมนตรี
ผู้ว่าราชการ กทม.
ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดี ไปศาลเพื่อไต่สวน หลังจากที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และชาว กทม.จำนวน 41 คน ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ 17 ม.ค.62 กล่าวหาว่าบุคคลทั้งสามละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ กรณีไม่ยอมใช้อำนาจตามมาตรา 9 ประกอบมาตรา 59 แห่ง พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 และมาตรา 28(1) แห่ง พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2560 ในการควบคุมภยันตรายจากการแพร่กระจายของฝุ่นละออง PM2.5 ได้ เป็นเหตุให้โรงเรียนต่างๆต้องหยุดเรียน และองค์กรภาคธุรกิจเอกชนต้องหยุดการทำงานเพื่อหลีกหนีมลพิษ และทำให้ประชาชนจำนวนมากเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ นักท่องเที่ยวหนีหาย เศรษฐกิจของประเทศต้องเสียหายเป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท เมื่อสมาคมฯและชาว กทม.ได้ยื่นคำฟ้องพร้อมคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองอย่างใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาแล้ว ต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามชี้แจงคัดค้านคำขอดังกล่าว แต่ทว่าผู้ถูกฟ้องใช้แท็กติกขอขยายระยะเวลาการชี้แจงออกไปเรื่อยๆ แต่เนื่องจากข้อเท็จจริงปรากฏเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่าสถานการณ์มลภาวะทางอากาศเกี่ยวกับฝุ่นขนาดเล็ก(PM2.5) ได้ขยายเป็นวงกว้าง ศาลจึงมีคำสั่งเรียกผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามมาให้ถ้อยคำต่อศาล เพื่อประกอบการพิจารณามีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองอย่างใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ก่อนมีคำพิพากษาตามคำร้องขอของสมาคมฯและชาว กทม.ต่อไปศาลกำหนดนัดไต่สวนผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามในวันพฤหัสที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 10.00 น. ณ ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. ซึ่งสมาคมฯจะนำพยานหลักฐานไปแสดงเพิ่มเติม และคัดค้านคำชี้แจงต่อหน้าศาลด้วย เพราะเชื่อว่าผู้ถูกฟ้องคดีจะมีข้ออ้าง และชี้แจงบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง เพื่อขอให้ศาลเร่งออกคำสั่งเพื่อให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามกำหนดมาตรการ หรือวิธีการที่เด็ดขาดในการระงับแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆ อย่างเฉียบขาดด้วย โดยเฉพาะต้องเร่งเอาผิดกลุ่มผู้เผาไร่อ้อยและรับซื้ออ้อยเผา กลุ่มโรงงาน เป็นต้น
matemnews.com
6 กุมภาพันธ์ 2562