เฟชบุ้ค ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล
Panadda Diskul
ภาคภูมิใจในชาติ
‘ยิ้มของคนไทย’
ดีใจที่ภาระหน้าที่รับผิดชอบหนึ่งของข้าพเจ้า ณ เวลานี้ คือ การได้ช่วยราชการที่กระทรวงยุติธรรม และในส่วนของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
วันหนึ่งในชั้นเรียนของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนฯ ข้าพเจ้าจำได้ว่าเราพูดคุยกันกับลูกหลานสถานพินิจฯ เรื่องเอกลักษณ์ของชาติ มีหลายคนแสดงความคิดเห็นเรื่องความจงรักภักดีที่ปวงชนชาวไทยมีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พูดถึงเรื่องความเพียร ความรู้-รัก-สามัคคี ความอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าหากัน ความเป็นสุภาพชน ความพอเพียง ความมีเมตตากรุณา โดยการแสดงออกทั้งทางกาย วาจา ใจ ความยิ้มแย้มแจ่มใส ที่เรียกว่า ‘ยิ้มสยาม’ เราปรารภกันว่า การยิ้มคือ ‘ไมตรีจิตของชนชาติไทย’ ที่มีต่อคนไทยด้วยกัน รวมถึงชนชาติอื่นๆ ซึ่งเป็นมิตรประเทศที่ดีของประเทศไทย เรายิ้มเพราะเราเป็นผู้มีอัธยาศัยไมตรี เรายิ้มเพราะอยากที่จะได้สนทนากับแขกผู้มาเยี่ยมเป็นภาษาต่างประเทศ ที่คนไทยพูดได้อย่างไพเราะ สำเนียงแบบคนอังกฤษ แม้จะเขินอายอยู่บ้างก็ตาม เรายิ้มเพราะเราทราบดีว่า ประเทศชาติบ้านเมืองไทยของเราดำรงความเป็นชาติที่เก่าแก่ เป็นที่รักของนานาอารยประเทศแต่ไหนแต่ไรมา ทั้งหลายทั้งปวง คือเกียรติยศและความภาคภูมิใจ (Pride and Dignity) ที่เราได้เกิดมาเป็นคนไทยบนผืนแผ่นดินนี้ที่เรารัก
#พิพิธภัณฑ์วังวรดิศและหอสมุดสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ#
#กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน#
16-2-62
เฟชบุ้ค Kanok Ratwongsakul Fan Page
ถ้าคิดว่ามีหนุ่มสาวรุ่นใหม่กำลังปลื้มเขา..
ก็ขอให้ช่วยกันแชร์โพสต์นี้ไปให้ทั่วถึง..
รวมถึงโพสต์ของอาจารย์เอนก ตอนท้ายด้วยนะครับ
.
.
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมรอฟังคำอธิบายจาก “หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่” เกี่ยวกับรูปที่เขาแชร์กันมากมายว่า..ใช่รูปนายธนาธรหรือไม่? ที่ไปนั่งชุมนุมอยู่กับคนเสื้อแดง..
.
.
ถ้าใช่..เป็นการชุมนุมครั้งไหน ครั้งที่จบลงด้วยการเผาบ้านเผาเมือง หรือครั้งที่ไปล้มการประชุมผู้นำอาเซียน?
.
.
ในภาพนั้นเขาพาดหัวแรงมาก.. ยอมรับว่า เราไม่สนใจนายคนนี้เลย..ไม่มีข้อมูลใดๆ จึงต้องรอฟังจากปากเขา “นายเคยไปนั่งถ่ายรูปกับทักษิณมาจริงหรือ?”
.
.
แต่..ธนาธรยังไม่พูดสักแอะ! ผมเชื่อว่าเขาต้องเคยเห็นรูปพวกนี้แล้ว ก็พรรคนี้ไง ที่มีทีมแอดมินคอยจับและปั่นกระแสเชิดชูพรรคในโซเชียล ยังไงก็ต้องเคยเห็น
จนมาถึงสัปดาห์นี้ “สัปดาห์โขกสับ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จนเละเทะ ไปไม่ถูก ในประเด็น “ยิ้มโง่ๆ” Land of smile
.
.
คนที่อุตริคิดว่า คนไทยที่ยิ้มนั้น คือ “คนที่ไม่มีจุดยืน ตอบอะไรก็ไม่ได้” คนๆนั้นไม่ปกติแน่ เพราะเล่นใหญ่! เล่นด่าคนไทยทุกคน.. เพราะทุกคนต้องเคยยิ้ม..ทุกคนโดนหมด..ยิ้มโง่ๆ!
.
.
เรื่องนี้..เขาก็ไม่พูด เล่นบทเงียบ..บทด่าเผด็จการไปตามทำนอง ผมไม่ทันโกรธ เพราะ “พี่ดี้” ชิงโกรธไปแล้ว
.
.
ประเด็นที่ผมโกรธ (ถ้าเขาพูดจริง) คือ “เศรษฐกิจพอเพียง ก็เป็นวาทกรรมแบบหนึ่งเท่านั้นเอง..” โอ้โห! มึงเกินไปแล้ว!
.
.
“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ มีพระราชดำรัสแก่ชาวไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2517 และทรงแนะนำเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ในยามวิกฤตการณ์ทางการเงิน ปี 2540
.
.
ได้รับการเชิดชูจากองค์การสหประชาชาติ ว่าเป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ แต่ ธนาธรบอก “เป็นแค่วาทกรรม..” ไอ้หมอนี่..มันน่า..นัก!
.
.
จนมาถึงวันศุกร์นี้ หมดไปอีกสัปดาห์ เขาก็ยังไม่ตอบ ! มัวแต่หลงปลื้มไปกับ “ฟ้ารักพ่อ”
.
.
น้องๆหนูๆ 7 ล้านคนเอ๋ย จะกาบัตรเป็นครั้งแรก เจิมให้กับบ้านเมืองได้รับอานิสงส์ 7 ล้านคะแนนนี้ อย่าสักแต่หลงกระแสติดแฮชแท็กวลีละคร
.
.
บ้านเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งใหญ่ ดูให้ลึก..ทะลุหน้าทรงสี่เหลี่ยม..ถึงอดีตอันน่าสงสัย หลายต่อหลายครั้ง !!
.
.
คนเช่นนี้..อย่าว่าแต่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี..จะมาเป็น ส.ส.เลย จะให้ 1 คะแนนแรกจากเรา..โปรดคิดถึงอนาคตประเทศชาติเป็นหลัก
.
.
อาจารย์เอนก ถาม “ธนาธร เคืองแค้นไทยไปทำไม”
เฟชบุ้ค Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)
https://goo.gl/URFUec
วานนี้ผมอ่าน FaceBook : เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas …ดุเดือดไม่น้อย
…ผมเองรู้จักกับ อาจารย์เอนกมานาน และนานพอที่จะทำให้รู้ว่า คนที่ใจเย็นมากๆ อย่างนี้ ถึงกับแสดงความเห็นอย่างเข้มข้นผิดวิสัย ผ่านตัวหนังสือสู่สาธารณะ
จากเด็กหนุ่มที่เรียนคณะแพทย์ จุฬาฯ และหนีเข้าป่านาน 2 ปีจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 รุ่นเดียวกับคุณภูมิธรรม หมอมิ้ง คุณจาตุรนต์ ภายหลังออกจากมาป่า ท่านคิดไตร่ตรองหาทางออกโดยเฉพาะเรื่องระบบการปกครองกับการเมืองไทย ที่ไม่ทำให้ประเทศแตกแยก ก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาสาขารัฐศาสตร์จนจบปริญญาเอก เพื่อให้รู้กระจ่างในวิธีคิดของตะวันตก เมื่อกลับเมืองไทยก็ได้ทำงานทั้งเรื่องวิชาการ และทางการเมืองมากมาย
แต่คุณสมบัติที่สำคัญของท่านคือ ความเป็นนักคิดที่ไม่ยึดติดกับตำราฝรั่ง ท่านมักจะมองหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ ของสังคมส่วนร่วม โดยยึดถือเอาประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นอันดับแรก ท่านใช้เวลาทั้งชีวิตศึกษาประวัติศาสตร์ของไทยอย่างจริงจัง และมากพอที่สุกงอมจนตกผลึกว่า สิ่งที่ทำให้คนไทยยังคงมีประเทศอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ คือพระปรีชาสามารถของบูรพกษัตริย์นับตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน
ท่านค้นพบว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเข้มแข็งกว่าสถาบันประชาธิปไตย และสถาบันทหาร เพราะเป็นที่ยอมรับและเคารพของทุกๆ ฝ่าย ปัจจุบันอาจารย์เอนกมีความภาคภูมิใจในการสอน รวมทั้งเขียนหนังสือหลายต่อหลายเล่มเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติภูมิของสถาบันกษัตริย์ ให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้เข้าใจถึงความสำคัญของสถาบันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
นี่คือความคิดของนักเรียนที่จบมาจากเมืองนอกเมืองนา และเป็นอดีตคนที่เคยคิดแบบถอนรากถอนโคน แต่วันนี้กลับมาปกป้องสถาบันหลักแบบเอาเป็นเอาตาย
ฉะนั้นใครที่ออกมาท้าทายสถาบัน ด่าประเทศไทย โดยอ้างตำราฝรั่งที่อาจารย์อ่านมาจนปรุ จึงเหมือนเป็นการกระตุ้นต่อมรักชาติของท่านอย่างแรงจนไม่สามารถปล่อยผ่านอีกต่อไป
โดยพื้นฐานชีวิตของเอนกค่อนข้างไม่มีแรงกดดันในชีวิต น่าจะเป็นเพราะฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างดีจากธุรกิจของครอบครัว แต่เขาก็ไม่เคยทำธุรกิจหรือยุ่งเกี่ยวจัดการกับธุรกิจของครอบครัวเลย
อย่างไรก็ตาม จากการใช้ชีวิตของเอนก เขาได้พบเจอกับ Cultural Shock โดยได้พบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตหลายครั้ง เช่น การตัดสินใจหลบหนีเข้าป่า (ซึ่งนับได้ว่าเป็นการคิดในเรื่องใหญ่และถือว่าได้ยอมรับความตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง) การกลับออกจากป่าคืนสู่สังคมและใช้ชีวิตปกติ การเข้าไปในวงการการเมืองและการออกจากการเมือง ดังนั้น เอนกจึงเป็นผู้ที่ยอมรับและคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และความคิดของเอนกก็มีความเปลี่ยนแปลงโดยตลอดเช่นกัน เป็นนักแสวงหาที่ไม่ยึดติดกับตำรา เขามักใคร่ครวญคิดถึงแนวทางในการพัฒนาและหาทางออกจากปัญหาต่างๆ ในเรื่องของสังคมส่วนร่วม บ้านเมืองและการเมืองเสมอ
ผู้จัดทำ สุเทพ เทือกสุบรรณ
โพสต์ 1 ครั้งทาง Facebook : Suthep thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)
ผลิตเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 สำนักงานใหญ่พรรครวมพลังประชาชาติไทย
เลขที่ 446 อาคาร พี เค แอล
ซอยรัชดาภิเษก 26 แขวงสามเสนนอก
เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
.
พบกันคืนนี้ “ข่าวข้น คนเนชั่น”
matemnews.com
16 กุมภาพันธ์ 2562