Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ตัดแต้ม-คืนแต้มใบขับขี่ดิจิทัล —ทำยังไง

ตัดแต้ม-คืนแต้มใบขับขี่ดิจิทัล —ทำยังไง

881
0
SHARE

นายกมล  บูรณพงศ์  รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)    แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อตอนเช้า 26 ก.พ.2562   ว่าด้วยการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เห็นชอบร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก(ฉบับที่….) พ.ศ…. เพื่อแก้ไขสาระว่าด้วย   หลักเกณฑ์การออกใบสั่งสำหรับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรที่กำหนดให้ใช้การบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับขี่  รองรับการใช้ใบขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์  หรือ  ใบขับขี่ดิจิทัล) ว่า  

กรมการขนส่งทางบกได้หารือตำรวจบ้างแล้ว  เพื่อเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับระบบการตัดแต้มใบขับขี่   และระบบการคืนแต้มใบขับขี่ ที่ต้องให้ผู้กระทำผิดเข้ามาอบรมที่กรมฯตามกฎหมาย  โดยจัดหลักสูตรอบรมให้ผู้กระทำผิด  รวมทั้งหลักเกณฑ์ให้โรงเรียนเอกชนสอนขับรถอบรมแทนด้วย   แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องส่งข้อมูลมายังกรมฯ เพื่อให้การทำงานเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน 

หลักสูตรเพิ่มเติมที่จะจัดอบรมภาคทฤษฎีประมาณ 3-4 ชม. อาทิ  กฎจราจร มารยาทการขับขี่  ข้อกำหนดตามกฎหมายต่างๆ ไม่ขับด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ไม่ดื่มแอลกอฮอล์  ไม่โทรศัพท์ขณะขับรถ และการขับรถที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุตลอดจนกฎเกณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ  อาทิ   ไม่ดูแลสภาพรถให้ดีหรือรถมีควันดำ   การอบรมภาคปฎิบัติ  ผู้กระทำผิดขับรถเป็นอยู่แล้ว เพียงแต่กระทำผิดกฎจราจรจึงไม่ใช่อบรม เพื่อขอใบขับขี่ใหม่ ดังนั้นต้องอบรมผู้กระทำผิดในหัวข้อต่างๆเพิ่มเติมตามฐานกระทำผิด    กรมฯจะวางกรอบให้ทางโรงเรียนเอกชนสอนขับรถ   นำไปใช้อบรมให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน   และต้องมีค่าใช้จ่ายไม่แพงจนเกินไป   ต่อไปตำรวจจะไม่ยึดใบขับขี่   โดยสามารถเรียกตรวจใบขับขี่ดิจิทัล  ผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Smart Licence บนโทรศัทพ์มือถือสมาร์ทโฟนได้   กรมฯกำลังพิจารณาลักษณะการวางรูปแบบภาพถ่ายใบขับขี่ให้ตำรวจตรวจสอบได้ง่าย  และนำไปปฎิบัติต่อได้

พล.ต.ต.เอกรักษ์   ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา   สตช.    ในฐานะคณะทำงานแก้ปัญหาจราจร   แถลง ว่า    กำลังประมวลเรื่องเสนอ พล.ต.ท. ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์  ผช.ผบ.ตร. ดูแลงานด้านการจราจร  เพื่อตั้งคณะทำงานยกร่างอนุบัญญัติประมาณ 8 ฉบับ  เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม   โดย 8ฉบับ  ประกอบกอบด้วยเรื่องหลักๆ อาทิการตัดแต้มใบขับขี่  โดยผู้ขับขี่จะมีคนละ 12 คะแนน  เบื้องต้นแบ่งความผิดเป็น 3 ระดับคือ

ระดับที่ 1 ความผิดกระทบต่อตนเองและสาธารณะเล็กน้อย ตัด 1 แต้ม เช่นไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่คาดเข็มขัด ใช้โทรศัพท์ขับรถ และ ขับรถเร็ว

ระดับที่ 2 กระทบสาธารณะปานกลางตัด 2 แต้ม เช่น ผ่าไฟแดง และขับรถย้อนศร และ

ระดับที่ 3 กระทบสาธารณะรุนแรง ตัด 3 แต้ม เช่น เมาแล้วขับ เสพยาเสพติด และ ขับชนแล้วหนี  

สามารถกำหนดข้อหาเพิ่มได้แต่ต้องประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง

หากคะแนนถูกตัดทั้งหมด ต้องพักใช้ใบขับขี่ 90 วันก่อน  ทั้งนี้ภายใน 3 ปีถูกพักใช้ใบขับขี่เกินกว่า 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 จะถูกพักใช้ 1 ปี 

หากกระทำผิดครั้งที่ 3 แล้วยังอยู่ในระยะควบคุมความประพฤติ 1 ปี  ถ้ากระทำผิดอีกจะถูกพักใช้เป็นครั้งที่ 4 และจะถูกเพิกถอนใบขับขี่

การคืนคะแนน หากคะแนนถูกตัดไป 8 แต้ม เหลือไม่เกิน 4 แต้ม  ต้องขออบรมและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอบรมเอง โดยต้องอบรมที่ขบ.หรือโรงเรียนสอนขับรถที่ขบ. ให้การรับรอง   จากนั้นต้องสอบให้ผ่านถึงจะได้รับแต้มคืน   เนื้อหาอบรมจะหารือกับ ขบ. อีกครั้งเบื้องต้นคาดว่าต้องเกี่ยวกับการขับรถ ความปลอดภัย และวินัยจราจร  

กฎหมายใหม่นี้จะยกเลิกการเรียกเก็บใบขับขี่โดยตำรวจ   ให้ผู้ขับรถแสดงใบขับขี่แบบดิจิทัลได้  จะพยายามยกร่างกฎหมายให้เสร็จแล้วภายในเดือน มี.ค. 62 จากนั้นจะทำประชาวิจารณ์ช่วง ต้น เม.ย.62 เพื่อรวบรวมความเห็นเสนอ ผบ.ตร. ประกาศใช้  กฎหมายมีผลบังคับใช้ภายใน120 วันนับจากวันที่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้แน่นอน

matemnews.com 

26 ก.พ.2562