นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และในฐานะรองประธานศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง(CEPP) แถลงแก่ผู้สื่อข่าว 3 มี.ค.2562
“ตามที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมการกำหนดวันขึ้นเวทีปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เบื้องต้นวางไว้ 4 จุดใหญ่ เน้นยุทธศาสตร์เจาะตามภาค โดยเริ่มการปราศรัยใหญ่ “ภาคอีสาน” เป็นแห่งแรก ในวันที่ 10 มี.ค.นี้นั้น กรณีดังกล่าวเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ มีหลายสถานะ และไม่ยอมลาออกจากข้าราชการการเมืองเพื่อมาทำหน้าที่รักษาการตามที่นักการเมืองในอดีตได้เคยปฏิบัติกัน เพื่อสร้างความเสมอภาคในการหาเสียงและเพื่อความสุจริตและเที่ยงธรรมตามที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.2561 กำหนด ดังนั้น “ศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง(CEPP)” จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษมากกว่าพรรคอื่นๆ โดยได้เตรียมการตั้งทีมตรวจสอบไว้ เพื่อติดตามตรวจสอบการเดินสายปราศรัยของพล.อ.ประยุทธ์ว่ามีการกระทำและคำปราศรัยส่อไปในทางผิดกฎหมายอย่างไร หรือไม่ เช่น
1)มีการนำรถยนต์และทรัพย์สินของทางราชการในการเดินทางไปตระเวนปราศรัยหรือไม่
2)มีการนำฝ่ายรักษาความปลอดภัยประจำตัวนายกฯเดินทางไปร่วมตระเวนด้วยหรือไม่
3)มีการนำข้าราชการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐไปร่วมตระเวนด้วยหรือไม่
4)มีข้าราชการในพื้นที่ที่เปิดปราศรัยมาคอยต้อนรับและนำทรัพย์สินของทางราชการมาคอยอำนวยความสะดวกให้หรือไม่
นอกจากนั้นทุกคำปราศรัยมีคำพูดใดที่ขัดต่อมาตรา 73 มาตรา 74 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และขัดต่อข้อ 17 ข้อ 18 แห่งระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 หรือไม่ด้วย
หากพบว่าการกระทำและคำปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายข้างต้น CEPP ก็จะรีบส่งคำร้องไปให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัยเอาผิดทันที และหากมีประเด็นใดที่เกี่ยวโยงไปถึงการกระทำและรู้เห็นของหัวหน้าพรรคและหรือคณะกรรมการบริหารพรรคของพรรคพลังประชารัฐที่ส่อไปในทางที่ขัดต่อกฎหมาย ก็จะดำเนินการด้วยเช่นกันในทันที
matemnews.com
3 มีนาคม 2562