Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ‘ปีนี้พระท่านสอนบอกว่าไม่ให้ข้าพเจ้าโกรธหรือโมโหใคร’ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ พระราชทานสัมภาษณ์ที่กรุงเบอร์ลิน

‘ปีนี้พระท่านสอนบอกว่าไม่ให้ข้าพเจ้าโกรธหรือโมโหใคร’ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ พระราชทานสัมภาษณ์ที่กรุงเบอร์ลิน

384
0
SHARE

วันที่ 7 มี.ค.2562 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จฯร่วมงาน International Tourismus Borse 2019 (ITB 2019) ครั้งที่ 53 งานมหกรรมทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลก ณ อาคาร Messe Berlin Exhibition Ground กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี  จัดระหว่างวันที่ 6-10 มี.ค. 2562

โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. นำเสด็จเยือนคูหาประเทศไทย หมายเลข 221 ฮอลล์ 26 บี

โอกาสนี้ได้ พระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนไทยที่ร่วมคณะของ ททท.ไปจากกรุงเทพฯ  ความว่า

“เมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามจำนวนมาก ทั้งเมืองหลัก และเมืองรอง ข้าพเจ้าเคยเดินทางไปหลายแห่งยังรู้สึกประหลาดใจ ยังมีสถานที่แปลกๆ ที่ไม่เคยทราบมาก่อน โดยแต่ละแห่งล้วนมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง นับเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละชุมชน ในฐานะที่ชาวชุมชนเป็นเจ้าบ้าน สำคัญมากที่ต้องมีความภูมิใจในอัตลักษณ์ของตนเอง เพราะเรามีสิ่งที่คนอื่นไม่มี ฉะนั้นเราต้องชูอัตลักษณ์ในความแตกต่าง  สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดมาเสมอว่า คนไทยจะต้องมีจิตใจที่เป็นมิตร มีความเต็มใจที่จะบริการ ทำให้ทุกคนสะดวกสบาย มีความสุขที่จะมาเที่ยวบ้านเรา ชาวต่างชาติเขาคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดเวลาไปเยือนสถานที่ต่างๆ คือความปลอดภัย ถ้านักท่องเที่ยวมาแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย จะทำให้ไม่อยากกลับมาเที่ยวอีก ฉะนั้นเราต้องช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย ต้องช่วยกันดูแล ให้อยู่ดีกินดี มีความสุข ขณะเดียวกันเราต้องร่วมมือร่วมแรงช่วยคนไทยด้วยกัน ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของเมืองไทย ปัจจุบันนี้ทาง ททท.เน้นโปรโมตเมืองรอง 55 จังหวัด พวกเราทุกคนสามารถมีโอกาสที่จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับร่วมกัน ทว่าเมืองรองแม้มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ขนบประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และทางธรรมชาติมากมาย แต่คนไทยกลับไม่ค่อยให้ความสนใจไปเที่ยว  หากจะใช้คำว่า มองข้ามเมืองรอง  คงไม่ถูกต้องนัก เพราะนักท่องเที่ยวชาวไทยบางคนอาจจะไม่ทราบข้อมูล บางแห่งยังไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์  เมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกเวลา  สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูฝน ฤดูหนาว หรือฤดูร้อน บางครั้งข้าพเจ้าไปจังหวัดนี้ ยังไม่รู้ว่ามีสถานที่หรือของดีอะไร ต้องถามไถ่กัน ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพราะสิ่งดีๆ อาจอยู่แค่ปลายจมูก  มีโอกาสเสด็จจังหวัดต่างๆ ทั่วทั้งประเทศ หากพระกรณียกิจแล้วเสร็จและทรงพอมีเวลาว่าง พระองค์จะทรงโปรดเยี่ยมชมสถานที่ใกล้เคียงพื้นที่ทรงงาน เช่น พญาศรีสัตนาคราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดนครพนม ส่วนจังหวัดมุกดาหารมีพญานาคขนาดใหญ่คอยปกป้องพระพุทธรูปองค์สีขาว ที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ซึ่งทั้งสองแห่งล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์  และจากการไปเยือนที่ต่างๆ ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเด็ก ๆ และผู้ปกครองมาพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ นอกจากยาเสพติดยังมีปัญหาปากท้อง ข้าพเจ้าอยากเข้าไปช่วยเหลือแก้ไข แต่น่าเสียดายที่ข้าพเจ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง ปัจจุบันนี้ หากไปเที่ยวเมืองไหนก็พยายามถ่ายรูปสวยๆ มาลงในอินสตราแกรมส่วนตัว พร้อมกับหาวิธีเขียนที่อ่านสนุก เพราะถ้าเขียนเชิงวิชาการเกินไปจะน่าเบื่อ พาลให้คนไม่อยากเที่ยว  การโปรโมตทางสื่อโซเชียลนับว่าได้ผลดี  สื่อโซเชียลหลักที่ใช้คือ อินสตาแกรม เพราะรวดเร็วเข้าถึงได้ทุกที่ทุกแห่งและได้ผลดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีโอกาสได้โต้ตอบกัน  ทุกคนสามารถคุยกับข้าพเจ้าได้ ถ้ามีเวลาก็จะพยายามตอบ คนมาแสดงความคิดเห็นหลายคนก็ให้กำลังใจมาก  เรารู้สึกขอบใจและซาบซึ้งใจที่พวกเรามาให้กำลังใจ ทำให้สามารถที่จะกำลังใจทำงานดีๆ ต่อไป แต่บางครั้งสื่อออนไลน์ก็มีข้อเสียที่ต้องระมัดระวังในการใช้ เช่น บางคนใช้โต้เถียงกัน ด่าทอใส่กัน สำหรับข้าพเจ้าไม่โกรธ เพราะมองว่าคนด่าทำให้เราหันมามองตัวเอง ได้ปรับปรุงตัวเองไม่ต้องชมตลอดเวลา เมื่อก่อนเคยเปิดเฟซบุ๊กมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ก็มันดี แต่ตอนหลังๆ ก็เยอะไปก็เลยปิดเป็นส่วนตัว สำหรับบางคอมเม้นต์ถ้าเป็นเรื่องไม่จริงก็ไม่แคร์ ปีนี้พระท่านสอนบอกว่าไม่ให้ข้าพเจ้าโกรธหรือโมโหใคร ตามสุภาษิตที่ว่า โกรธคือโง่โมโหคือบ้า  ดังนั้น ปีนี้จะไม่โมโหใครเลย เพราะถ้าโกรธและโมโหก็จะทำให้เราแก่เร็วและจะเป็นสาเหตุโรคอัลไซเมอร์ได้

“คนไทยคือจุดแข็งของประเทศไทย คนไทยมีทัศนคติเชิงบวก ไม่ว่าจะการเป็นคนมีน้ำใจ เมตตากรุณา ชอบช่วยเหลือ ลักษณะนิสัยเหล่านี้เป็นนิสัยดั้งเดิมของคนไทย เห็นได้จากเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิ ปี 2547 คนต่างชาติก็ชื่นชมเรื่องความมีน้ำใจของเรา นี่คือจุดแข็งของประเทศ เป็นเสน่ห์ของเจ้าของบ้านที่ดี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว คนไทยคือนัมเบอร์วันที่ทำให้ประเทศไทย เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนอันดับต้นๆ  จุดเด่นของเมืองไทยที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวยุโรปให้มาเที่ยวเมืองไทยในมุมองของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเล็งเห็นว่า เมืองไทยมีความหลากหลายในสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม มีความเก่าและความใหม่ผสมผสานกันอยู่ ทำให้ใครชอบอย่างไรก็สามารถไปเที่ยวอย่างที่ตัวเองชอบได้ แต่เราก็ไม่สามารถโปรโมตของเก่าได้ทั้งหมด เพราะเรามีของใหม่ ๆ อยู่ด้วย ของเก่าบางอย่างที่ดีก็เก็บไว้ เช่น วัฒนธรรมของความเป็นมิตร เป็นวัฒนธรรมเก่าดั้งเดิมของไทย แต่เราก็ต้องเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ ที่แปลก ๆ  ชาวยุโรปชอบหนีหนาวมายังเมืองร้อนอย่างประเทศไทย เขาก็สามารถใส่บิกินีเดินไปไหนมาไหนได้ คนที่อยากมาเที่ยวบ้านเราเพราะเขาต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจากที่บ้านเขา บางทีจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว”

 “อาหารริมทางบางอย่าง แพงยิ่งกว่าอาหารในร้านอาหาร ปัจจุบันอาหารริมทางของไทยได้รับรางวัลมิชลินสตาร์หลายร้าน แต่ข้าพเจ้าไม่ค่อยได้ออกไปรับประทานอาหารข้างนอกบ่อยนัก แต่ถ้าถามว่าชอบอะไรข้าพเจ้าชอบอาหารริมทางแบบดั้งเดิม ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปขายขนม เช่น น้ำตาลสด ข้าวเกรียบปากหม้อ ส่วนที่ข้าพเจ้าชอบรับประทานคือ ก๋วยจั๊บริมคลอง อาหารจำพวกเส้น ๆ ข้าพเจ้าชอบอะไรที่สบาย ๆ ช่วงหลังมีโอกาสได้ทำกับข้าวบ่อยขึ้น ทำอาหารเป็นหลายอย่างแล้ว สงสัยต้องไปตั้งร้านอาหารสตรีทฟู้ดเองไว้ไปแข่งกับร้านที่แพง ๆ บ้าง”

matemnews.com 

8 มนาคม 2562