ในการแถลงข่าวหลังเสร็จประชุมม ครม.นอกสถานที่ที่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา เมื่อบ่าย 22 ส.ค.2560 ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวได้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าคืนวันที่ 24 ส.ค.2560 ท่านจะนอนหลับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า
“มีอะไรหรือ เป็นวันอะไร วันศุกร์หรือ วันศุกร์ก็ดีใจซิ วันศุกร์แล้วผมจะได้พักผ่อน จะไปสนใจว่าเป็นวันอะไร ก็เป็นเรื่องของคดี หรือเป็นเรื่องของใครก็เป็นเรื่องของคน ๆ นั้น เรื่องของศาล คนที่จะนอนไม่หลับคงมีไม่กี่คนละมั้ง สำหรับผมหลับสบายทุกวันทั้งนั้นแหละ งานผมเยอะอยู่แล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่เขาก็เตรียมของเขาตามหน้าที่ไม่ได้ไปกดดันใคร อีกฝ่ายก็อย่าไปยุแยงตะแคงรั่ว ว่าจะโน่นจะนี่ อีกฝ่ายก็ต้องเตรียม ไม่รู้จะไปขู่กันทำไม เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องเตรียมการของเขาไว้ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เสียเวลาเปล่า เสียงบประมาณ ขอร้องกัน วานนี้ผมได้ถามชาวอีสานว่าเขาจะไปหรือไม่ เขาตอบว่าไม่ไป แล้วมันจะมีอะไรเกิดขึ้น”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะมีมาตรการอะไรออกมาหรือไม่ หากเกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้นมา พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า
“แล้วจะมีได้หรือไม่ ประเทศไทย คนไทยจะยอมให้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ สมมติว่าศาลตัดสินออกมาแล้ว ไม่ว่าคดีจะออกมาอย่างไร ซึ่งผมไม่รู้ เพราะผมไม่เคยรู้ล่วงหน้า และไม่อยากจะรู้ด้วย แต่ถามว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมา แล้วคนไทยทั้งประเทศยอมรับได้หรือไม่ ถ้าคนไทยทั้งประเทศยอมรับได้ ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีกผมก็ยอมพวกท่านแล้ว คนไทยเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ คนไทยทุกคนรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ถือว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ เป็นตัวกลางที่จะทำให้ประเทศสงบเดินหน้าประเทศไปข้างหน้าให้ได้แล้วสื่อไหนที่บอกว่าจะไม่มาทำข่าวผม ใครไม่มา ไหนมาหรือเปล่า ไม่อยู่แล้วก็ดี แล้วเมื่อวานเขามาทำหรือเปล่า ผมไม่ได้โกรธเขา แต่ผมรับนิสัยเขาไม่ได้ เขาบอกว่าสื่อต้องทำหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ ขอถามว่าแล้วสิ่งที่ผมทำอยู่ทำเพื่อสาธารณะหรือเปล่า ผมไม่ได้ให้พวกท่านมาโฆษณาให้ว่ามีคนรักนายกฯ อย่างนั้น อย่างนี้ หรือนายกฯ เป็นคนเก่ง ผมไม่ต้องการคำหวานแบบนี้ ผมแค่ต้องการให้มาทำข่าวว่าเขาทำงานอะไรกันบ้าง ประชาชนจะได้เข้าใจ และเข้ามาหาช่องทางเหล่านี้ที่หน่วยราชการได้ทำไว้ได้ ถ้าสื่อไม่พูดหรือไม่นำเสนอเรื่องเหล่านี้ แล้วประโยชน์สาธารณะจะเกิดได้หรือไม่ การที่พวกท่านมาถามกรณีของวันที่ 24-25 สิงหาฯมันเป็นประโยชน์สาธารณะอย่างนั้นหรือ เรื่องนี้ไม่ใช่ประโยชน์สาธารณะเป็นเรื่องของบุคคล ไม่เช่นนั้นทุกคดีความก็คงตัดสินกันไม่ได้”
มาถึงช่วงนี้พล.อ.ประยุทธ์ หันไปทางทากงลุ่มนักข่าวท้องถ่น ถามว่าเข้าใจสิ่งที่ผมพูดหรือไม่ นักข่าวตอบว่า “เข้าใจ” พล.อ.ประยุทธืกล่าวต่อว่า
“ดีมาก เยี่ยม น่ารักจริง ๆ ไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกันไหม”
แล้วพล.อ.ประยุทธ์ ก็ยกมือไหว้กลุ่มนักข่าวทุกคน กล่าวว่า
“ลาแล้วครับ เดี๋ยวไปทำบุญก่อน ขอให้สื่อเดินทางกลับอย่างปลอดภัย เดี๋ยววันนี้จะสวดมนต์ให้”
แล้วพล.อ.ประยุทธ์ เดินลงจากโพเดีบม แป๊บนึงก็เดินกลับมา แล้วสาธิตการถวายคำนับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมฉายาลักษณ์ จะต้องน้อมไปทั้งลำตัวไม่ใช่แค่พงกศรีษะลง
แล้วพล.อ.ประยุทธ์ก็เซอร์ไพร้ส์นักข่าว เดินเข้ามาถ่ายรูปกับกลุ่มสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี กล่าวว่า
“ใครไม่ถ่ายเดี๋ยวน่าดู” ระหว่างถ่ายรูปกล่าวไปด้วยว่าว่า
“ไม่รักฉันก็อย่าเกลียดฉัน”
แล้วก็หันไปสั่ง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้คอยดูด้วยว่ามีสื่อคนใดเอารูปผมไปล้อเล่น
พอดีหันไปเจอช่างภาพทีวี ก็ขอกล้องมาทำท่าทดลองเป็นช่างภาพทีวี พูดไปด้วยว่า อยากรู้ว่ามันยากและลำบากแค่ไหน
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำตัวเป็ฯนักข่าว ด้วยการสัมภาษณ์นักข่าว
“ ขอทราบเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และการปฏิรูปประเทศว่าควรมีและต้องร่วมมือกันหรือไม่ ทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง วันนี้ต้องร่วมมือกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ จะทำเฉพาะต้นน้ำไม่ได้เดี่ยวปลายก็เล่นกันสบาย”
จากนั้นก็ขึ้นรถออกไป
Matemnews.com 22 สิงหาคม 2560