นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าว 12 มี.ค.2562 ว่า ผลการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์เนชันแนล อี เพย์เมนท์ มีโครงการก้าวหน้าหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการพร้อมเพย์ และการขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำแทนการใช้เงินสดซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ทุกประเภทแล้ว 46.5 ล้านราย และมีปริมาณธุรกรรมทั้งสิ้น 1,100 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่าธุรกรรมทั้งสิ้น 5.8 ล้านล้านบาท และได้มีการติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) แล้วทั้งสิ้นจำนวน 768,103 เครื่อง
แผนระยะต่อไป ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงินฉบับที่ 4 ช่วงปี 62 – 64) โดยมุ่งส่งเสริมให้ดิจิทัล เพย์เมนท์ ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินและบริการชำระเงินให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย มีราคาถูก และตรงความต้องการของผู้ใช้ทั้งประชาชน ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ และโซเชียล คอมเมิร์ซ รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอี และธุรกิจขนาดใหญ่ให้ลดใช้เงินสดและเช็ค เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ และสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินของประชาชน
matemnews.com
13 มีนาคม 2562