Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พ่อหนูน้อยที่ถูกตีหัว “พรบ.ขาด” จึงวนรถกลับ – อาสาก่อเหตุ มอบตัวบ่าย

พ่อหนูน้อยที่ถูกตีหัว “พรบ.ขาด” จึงวนรถกลับ – อาสาก่อเหตุ มอบตัวบ่าย

441
0
SHARE

จากกรณี น.ส.กัลยา ตมกลาง อายุ 25 ปี พาลูกชาย อายุ 2 ปี 1 เดือน เข้ารักษาตัวหลังถูกของแข็งฟาดเข้าที่ศีรษะข้างขวาอย่างรุนแรง บาดแผลยาวประมาณ 10 เซนติเมตร เย็บถึง 3 เข็ม อยู่ในอาการหวาดผวาและอาเจียนอย่างรุนแรง เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 27 มี.ค.62

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย บริเวณกลาง ซ.เขาตาโล ต่อมา นายสิวา นิลขำ อายุ 28 ปี พร้อมด้วย น.ส.กัลยา ตมกลาง อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มา โดยมีลูกชายวัย 2 ปี นั่งคร่อมหน้ารถจักรยานยนต์มาด้วย 

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเรียกรถหยุด แต่นายสิวา พ่อเด็ก ได้วนรถขับหลบหนี จังหวะเดียวกันเจ้าหน้าที่อาสาที่อยู่ริมทางจึงใช้ไม้ข้างทางสกัด จนไปโดนหน้าของเด็กได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ น.ส.กัลยา ได้ส่งเสียงตะโกนแล้วบอกว่ามีเด็ก หลังเกิดเหตุการณ์ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปส่ง รพ.บางละมุง เพื่อรักษาบาดแผลในเบื้องต้น 

พ.ต.อ.ชิตเดชา เปิดเผยอีกว่า สำหรับเหตุการณ์นี้ทางตำรวจรู้ตัวเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคนดังกล่าวแล้ว ทราบชื่อ นายจักรภพ บุญรอด เบื้องต้นจะทำการเรียกตัวมาสอบสวนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในช่วงบ่ายของวันนี้ ขณะที่เรื่องของคดีคงต้องแยกส่วนกัน คือ รับแจ้งจากพ่อเด็กคดีทำร้ายร่างกาย การเรียกสอบอาสาที่ก่อเหตุ และการเยียวยาเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งยืนยันว่าจะทำคดีให้เกิดความเป็นธรรมสูงสุด

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. นายสิวา นิลขำ อายุ 28 ปี พ่อของ เด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับอาสา พร้อมให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนท.ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง พ่อเด็กยอมรับว่า เสพยาหลายวันก่อนและโดนคดีนี้มาแล้ว แต่จะดำเนินคดีกับอาสารายนี้ให้ถึงที่สุด

นายสิวา กล่าวต่อไปว่า ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างออกมาซื้อกับข้าวกับภรรยาและลูกชาย เห็นตำรวจตั้งด่านตรวจบริเวณ ซ.เขาตาโล ด้วยความที่ตนเองไม่ได้ใส่หมวกกันน็อก และ พ.ร.บ.ขาด จึงวนรถกลับ ก่อนถึงด่านประมาน 300 เมตร จากนั้นได้มีอาสาสมัครใส่เสื้อคลุมสีดำออกมาขวาง แล้วใช้ไม้ฟาดโดนลูกชายที่นั่งหน้าสุดจนได้รับบาดเจ็บ แม้จะพยายามตะโกนบอกแล้วว่ามีเด็กอย่าตี แต่ก็ไม่ได้รับความปรานีเลย

หลังเกิดเหตุตนและภรรยาพร้อมเพื่อนได้กลับไปที่ด่านเพื่อแจ้งตำรวจหัวหน้าด่านให้รับทราบ ก่อนเดินทางไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาล และแจ้งความในเวลาต่อมา ส่วนอาการบาดเจ็บของลูกชายขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งจะต้องรอดูอาการต่อไป.