การประชุมครม.อังคาร 2 เม.ย.2562 เปลี่ยนเวลสามาเป็นตอนบ่าย ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากตอนเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกคณะไปปราบควัฯที่เชียงใหม่ ซึ่งนัดนี้ก็ยังมีหน่วยราชการต่างๆมาจัด Event เป็นการประชาสัมพันธ์งานเหมือนทุกอังคาร หลังเลิกประชุมครม.พล.อ.ประยุทธ์ไม่แถลงข่าว ไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าว ฮัมเพลง “ซาโยนาระ”ขณะเดินผ่านคณะนักข่าวทีร่รออยู่ในห้องโถงล่าง แต่ก็ได้พูดกับนักข่าวสั้นๆว่า “บ๊ายบาย เหนื่อย ไปแล้วนะ” โดยได้มอบหมายให้ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แถลงข่าว
เริ่มจากประพเด็น พล.อ.ประยุทธ์ มีสารของนายกรัฐมนตรี 2 ครั้งถี่ๆ ว่า
“ ถือเป็นช่องทางการสื่อสารของนายกฯในการแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ ความจริงไม่อยากใช้คำว่าเตือนสติ แต่อยากให้ทุกคนได้ใช้วิจารณญาณในการรับและเชื่อข้อมูลต่างๆ เนื่องจากขณะนี้มีข้อมูลออกมามากมายผ่านทางโซเชียลมีเดีย จึงได้ออกสารมาในลักษณะของความห่วงใย อยากให้ทุกคนใช้สติ เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ที่จะตัดสินข้อมูลต่างๆ
นักข่าวถาม สารของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับท่าทีของผู้บัญชาการทหารบกหรือไม่ พล.ท.วีรชน ตอบ
“ ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะในช่วงนั้น นายกฯไม่ทราบว่าผบ.ทบ.พูดอะไร เนื้อหาต่างๆที่ออกมาในสารทั้ง 2 ฉบับ ก็เป็นท่าทีและความรู้สึกโดยส่วนตัวของท่านเอง ที่มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากให้ทุกคนใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ส่วนการตอบโต้ต่างๆ ที่มีการใช้คำว่า ฝ่ายซ้ายของผบ.ทบ. จะทำให้สังคมย้อนกลับไปสู่ความขัดแย้งเหมือนในอดีตหรือไม่ ท่านนายกฯคิดว่าคงไม่ได้หมายความตามนั้นทั้งหมด แต่การที่ผบ.ทบ.ออกมาพูดแบบนั้น ทุกคนก็ทราบกันดีว่า มีสาเหตุ มีขบวนการ และมีความพยายามในการจะบ่อนทำลายอยู่บ้าง จึงได้ออกมาพูดในลักษณะดังกล่าว แต่คงไม่ได้ไปเหมารวมว่าขณะนี้สถานการณ์จะรุนแรงถึงขั้นนั้น เป็นแค่การเตือนสติสังคมกันบ้าง วันนี้ประเทศไทยเดินมาสู่จุดที่มีการเลือกตั้ง และกำลังเดินหน้าไปสู่ประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราอยู่ในขั้นตอนระหว่างที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้น สิ่งที่อยากจะเห็นคือทุกคนต้องมองไปข้างหน้า เดินหน้าและต้องไม่สร้างเงื่อนไข ทำให้เราถอยหลังกลับมาอีก นายกฯมีความเชื่อมั่นว่า สิ่งที่หลายคนกังวล จะไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอีก ถ้าประชาชนใช้สติ เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ไม่หลงเชื่อการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลต่างๆที่ออกมาในลักษณะบิดเบือน ทำให้คนหลงเชื่อ เพราะเรากำลังอยู่ในช่วงที่ทำให้คนใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล จุดนี้ถือเป็นอันตรายต่อประเทศชาติและประชาชนเอง แต่ใครจะคิดหรือทำอะไร รัฐบาลบังคับไม่ได้ ทำได้เพียงขอร้องว่าการที่จะคิดหรือตัดสินใจอะไร ขอให้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์”
นักข่าวถาม นายกฯอ่านสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังการเลือกตั้งอย่างไร โดยเฉพาะกรณีที่มีความพยายามปลุกระดมกลุ่มนักศึกษาให้ออกมาเคลื่อนไหวกดดันกกต. และคิดว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ตอบ
“วันนี้ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่ามีความพยายามจากฝ่ายไหนบ้าง เพราะทุกคนเห็นอยู่แล้วว่าการเมืองในปัจุบัน ฝ่ายไหนมีการดำเนินการอย่างไร มีความพยายามที่จะทำให้สถานการณ์ไปสู่จุดไหนอย่างไร สื่อทุกแขนงและเจ้าตัวที่ทำก็รู้อยู่แล้วว่าใครบ้างที่เป็นคนทำ สื่อทุกคนมีข้อมูลในเชิงลึกอยู่ แล้ว น่าจะช่วยให้คำตอบต่อคำถามดังกล่าวนี้ได้ สำหรับรัฐบาลไม่อยากไปปรักปรำอะไรใคร เราก็รู้อยู่แล้วว่า ใคร กลุ่มไหนเป็นคนทำ เพราะไม่ได้มีกลุ่มหน้าใหม่อะไรมากนักที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ เป็นกลุ่มเดิมๆ มีการเรียกร้องมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ว่าการเลือกตั้งต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ หลังเลือกตั้งเสร็จก็จะมีเรื่องอื่นเรียกร้องตามมา ยืนยันว่าไม่ได้มีกลุ่มอื่น เป็นเรื่องของคนกลุ่มเดิมที่เคลื่อนไหว”
นักข่าวบอก การไม่เปิดเผยหรือชี้แจงสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต.คิดว่าจะทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ ตอบ
“อยากให้คนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ พยายามเปิดใจฟังเหตุผลในการชี้แจงเขาบ้าง ที่ผ่านมา กกต.พยายามชี้แจงมาเป็นระยะว่าแต่ละขั้นตอนมีวิธี หลักการในการคิดอย่างไร ไม่อยากให้ทุกคนสรุปเพื่อที่จะหาคำตอบให้ตัวเองเร็วเกินไป อยากให้ใจเย็น ๆคิดและตัดสินใจบนพื้นฐานของการใช้เหตุผลมากกว่าการใช้อารมณ์ แต่ก็ไม่สามารถไปบอกได้ว่าจะต้องคิดแบบไหน ทำอย่างไร เพียงแต่ขอร้องว่าขอให้ใช้เหตุผล ทุกอย่างมีกฎ มีกติกา การที่คนไทยในนิวซีแลนด์โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ กกต.และพล.อ.ประยุทธ์ ลาออกเพื่อรับผิดชอบกรณีกกต.ตีบัตรลงคะแนนของนิวซีแลนด์ เป็นบัตรเสียพร้อมให้แจงเหตุผลนั้น ให้กกต.เป็นคนชี้แจงและขอให้รับฟัง ที่ผ่านมาเมื่อมีข่าวใดออกมาทางโซเชียลมีเดีย หลายฝ่ายมักจะเอาความคิดของตัวเองมาตัดสิน อ่านและไม่ฟังคำตอบหรือไม่ฟังคำอธิบายจากคนที่เกี่ยวข้อง หากเราตอบคำตอบที่สงสัยด้วยตัวเอง เอาหลักคิดของตัวเองมาตอบจะทำให้รู้สึกว่าอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ดังนั้นขอให้ใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์”
matemnews.com
2 เมษายน 2562