นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยแก่นักข่าวเมื่อตอนเช้าวันที่ 27 ส.ค.2560 กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับ ที่ 29/2560 ลงวันที่ 25 ส.ค.60 หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล และมีข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีออกนอกประเทศไทยแล้ว ว่า
“กรณีดังกล่าวเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของสาธารณชนว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครองปล่อยปละละเลยให้จำเลยในคดีอาญาอุกฉกรรจ์ หลบหนีออกไปจากไทยได้อย่างไร ก่อนหน้านั้นเป็นที่ทราบกันว่าฝ่ายความมั่นคง ทหาร และตำรวจ เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตลอดเวลา จนเป็นเงาตามตัวทุกกิจกรรม แต่เมื่อถึงเวลาที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษา ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ไม่มีใครทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีออกไปจากประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลาใด และใช้ช่องทางใดหลบหนี กรณีนี้ถือได้ว่าเป็นความบกพร่องและเป็นความผิดฐานละเลยการปฎิบัติหน้าที่และเข้าข่าย ทุจริตต่อหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2542 แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 52 และ 53 อย่างชัดเจน แล้วสังคมไทยจะฝากอนาคตไว้ที่ฝ่ายความมั่นคงได้อย่างไร ดังนั้นเวลา 11.00 น.วันที่ 28 ส.ค.นี้ ผมจะเดินทางไปร้องต่อ ป.ป.ช. ให้สอบสวนและพิจารณาลงโทษ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของระบบราชการไทย ที่ปล่อยเกียร์ว่างหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป”
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงแก่ผู้สื่อข่าว 27 ส.ค.2560 ถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเปิดทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีออกนอกประเทศ ว่า
“ขอเรียนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาการบริหารงานของรัฐบาล และ คสช. มีลักษณะเปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่ทำสิ่งใดที่ไม่อยู่ในกรอบของกระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่ในระบบ ความเห็นในลักษณะดังกล่าวยังเป็นเพียงมุมมองส่วนบุคคลที่พยายามจะไปผูกเชื่อมโยงกันเอง ซึ่งไม่อยากให้มีการกล่าวหาพาดพิงกัน โดยอาศัยเพียงความคิดมุมมองเฉพาะตัว โดยที่ไม่มีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ใดมาสนับสนุนความคิดนั้นๆ เพราะจะทำให้สังคมติดหล่มอยู่ในวังวนทางการเมืองแบบเดิมๆ ในระยะนี้ไม่อยากให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดให้ความเห็นในลักษณะสร้างความสับสนให้สังคม เพราะบางครั้งอาจทำให้สังคมเข้าใจผิด จนมีผลกระทบไปถึงภาพลักษณ์ของบุคคลหรือองค์กรได้ ส่วนกรณีการไม่มาฟังคำตัดสินของศาลในคดีโครงรับจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของกระบวนการหรือกลไกที่เกี่ยวข้อง จะได้ทำหน้าที่ไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมในระบบที่มีอยู่ให้ได้อย่างดีที่สุด”
Matemnews.com 27 สิงหาคม 2560
