นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าว ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เมื่อตอนเช้า 16 เฒ.ญ.2562 สรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 472 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 54 ราย ผู้บาดเจ็บ 494 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 40.68 ขับรถเร็ว ร้อยละ 27.54 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.85 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 67.16 บนถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 37.92 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.23 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 32.42 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 23.36
ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,040 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,308 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 1,092,735 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 235,838 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 64,926 ราย ไม่มีใบขับขี่ 57,452 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (26 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ พิษณุโลก มหาสารคาม อุบลราชธานี (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (27 คน)
อุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (11 – 15 เม.ย. 62) เกิดอุบัติเหตุ 2,702 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 297 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,807 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 8 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (104 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี (14 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (104 คน)
วันนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าจะมีปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะเส้นทางหลักจากภูมิภาคต่างๆ ที่มุ่งเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดเพิ่มความเข้มข้นการปฏิบัติงาน ประจำจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก เส้นทางสายรองที่ประชาชนใช้เป็นทางลัดและทางเลี่ยงเมือง ส่วนใหญ่เป็นถนนทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง จึงสามารถใช้ความเร็วได้สูง โดยให้เพิ่มความถี่ในการการเรียกตรวจ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะ
จะกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน ทั้งการขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง ในส่วนของการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้ประสานการเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณจุดตัดเส้นทางสายหลักสายรองที่มีการจราจรหนาแน่น
ผู้ขับขี่มีอาการอ่อนล้าจากเทศกาลสงกรานต์ การขับรถระยะทางไกลต่อเนื่องหลายชั่วโมง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุง่วงหลับใน จึงขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ขับรถเร็ว ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด หยุดพักรถทุก 1-2 ชั่วโมง ไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงว่า ได้กำชับให้ทุกจังหวัดประสานการปฏิบัติและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับของประชาชน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจความปลอดภัยและความพร้อมในการให้บริการขนส่งสาธารณะทุกประเภทและให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง ทั้งทางร่วม ทางแยก และจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ เน้นการเรียกตรวจเพื่อประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ รถตู้โดยสาร จะช่วยป้องกันการหลับในที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนจังหวัดที่ยังมีการเล่นน้ำสงกรานต์ได้กำชับให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และป้องกันอุบัติภัยจากการเล่นน้ำที่อาจก่อให้เกิดอันตรายและอุบัติเหตุทางถนน
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีปภ. ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) แถลงว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 5 วันที่ผ่านมา พบว่า อุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 59.85 โดยส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 66.54 ซึ่งมีสาเหตุจากการขับรถเร็วกว่าร้อยละ 43.49
สำหรับวันนี้คาดว่าเส้นทางสายหลักจะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน ทำให้มีความเสี่ยงอุบัติเหตุ จึงได้กำชับจังหวัดให้เพิ่มความถี่ในการจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก และเข้มข้นดูแลจุดเสี่ยงอุบัติเหตุด้วย
matemnews.com
16 เมษายน 2562