หลังเลิกประชุมครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล บ่าย 24 เม.ย.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทณืโอชา นายกรัฐมนตรี เลือกตอบคำถามของคณะผู้สื่อข่าวที่ส่งไปล่วงหน้าหลายเรื่อง
คำถามเกี่ยวกับ มีข้อสังเกต มีแนวโน้มจะตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งไม่ได้ ตอบว่า
“ผมยังคาดหวังและมุ่งหวังให้มีการจัดตั้งรัฐบาลได้เพื่อประโยชน์ของประเทศเรา ถ้าเราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต และจะมีผลพวงไปถึงเรื่องเศรษฐกิจด้วย”
ถาม เตรียมการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดความวุ่นวายอีกครั้งจากสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไร ตอบ
“ มันจะไม่เกิดขึ้นถ้าคนไทยทุกคนคิดว่าประเทศของเราจะต้องสุขสงบในการมีรัฐบาลต่อไปที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะเป็นการคัดเลือกจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้น ทุกคนจะต้องคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้เกิดเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความวุ่นวาย ทุกคนจะต้องช่วยกัน สื่อก็ต้องช่วยกันด้วย ขอให้ทุกฝ่ายเอาประเทศและประชาชนเป็นตัวตั้ง ความขัดแย้งในโลกใบนี้มีมากมาย โดยเฉพาะสงครามการค้าต่างๆ ที่อาจจะกระทบเศรษฐกิจอยู่แล้ว รวมถึงการส่งออก การใช้จ่ายในประเทศ ถ้าทุกคนยังหวาดระแวงอยู่แบบนี้ ทุกอย่างจะแย่ไปหมด ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลไหน ก็ทำไม่ได้ ถ้ายังมีความขัดแย้งในลักษณะเช่นนี้ วันนี้เป็นที่น่ายินดีที่ทางองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ชี้แจงมาว่าให้ความสนใจเรื่องการลงทุนในประเทศไทยเช่นเดิม ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทย ถือเป็นสิ่งที่มิตรประเทศมีความคิดเห็นมา เขายินดีที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อไปรวมถึงในอนาคต”
ถาม ในฐานะหน้า คสช.มั่นใจหรือไม่ว่าสถานการณ์ในวันนี้จะสามารถเลือกนายกฯ ในบัญชีพรรคการเมืองในสภาและจัดตั้งรัฐบาลได้ ตอบ
“ต้องเชื่อมั่นอย่างนั้น เพราะเราได้กำหนดโรดแมปของเราไว้แล้ว ก็ต้องเดินหน้าไปตามโรดแมป และจะเห็นได้ว่าตนไม่ได้บิดพลิ้วจากโรดแมปต่างๆ ที่มีมา เว้นแต่ในช่วงแรกที่มีปัญหาในเรื่องของกฎหมายไม่เรียบร้อย นอกนั้นยังเป็นไปตามโรดแมปทุกประการ วันนี้ถ้าจะไปสู่การเดินหน้าตามรัฐธรรมนูญ การมีรัฐบาลอะไรต่างๆ ด้วยความสงบสุขสันติ ก็ต้องฟังผมบ้าง และต้องช่วยผมในการทำให้บ้านเมืองสงบสุข เรายิ่งทะเลาะกันมากเท่าไหร่ ขัดแย้งกันมากเท่าไหร่ เรายิ่งสร้างเฮดสปีชกันมากเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้มันออกไปต่างประเทศทั้งหมด แล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้นได้อย่างไร มันมีผลกระทบทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ถาม มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อพยุงเศรษฐกิจช่วงกลางปี 2562 คนละ 1,500 บาท ตอบ
“ หลายอย่างรัฐบาลยังไม่ดำเนินการ แต่สื่อมวลชนนำเสนอเยอะแยะไปหมด ทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน ทั้งการเมือง ค่าใช้จ่าย แล้วก็ตีกลับมาที่รัฐบาล อย่าลืมว่ารัฐบาลก็คือรัฐบาล เราก็ทำหน้าที่ รัฐบาลต้องทำหน้าที่ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมี ครม.ใหม่ขึ้นมา มีการถวายสัตย์ปฏิญาณตน เมื่อมีการถวายสัตย์เราก็จะหมดหน้าที่ ระหว่างนี้ประเทศเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ งานต่างๆไม่สามารถหยุดได้ ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย รัฐบาลพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจ ดังนั้นที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะมีมาตรการต่างๆออกมาช่วงนี้นั้น ขอบอกว่ายังเป็นเพียงการศึกษาและปรึกษาหารือกันของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพียงแต่วันนี้ข่าวออกมาก่อน โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยวเมืองรอง สื่ออย่ามาถาม มันยังไม่มีข้อสรุปอะไรออกมาเลย บางทีเป็นเรื่องแค่การหารือกันเพื่อหาข้อสรุปให้ได้ ยืนยันว่ายังไม่ได้ข้อยุติ เพราะมีหลายอย่างเกี่ยวข้องไม่ใช่ให้เงินแล้วจบ ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้องเช่นเรื่องของภาษี คณะกรรมการกำลังพิจารณาอยู่ ขอร้องทุกคนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก มาตรการทางเศรษฐกิจมีผล 2 อย่าง เพราะเศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับการส่งออกมาด้วย ทุกคนก็ทราบดี ดังนั้นเมื่อโลกมีผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ มีสงครามการค้าก็จะส่งผลกระทบต่อ ยอดการส่งออก จึงจำเป็นต้องมีการเพิ่มการใช้จ่ายในประเทศ ถ้าทุกคนไม่กล้าที่จะใช้เงิน ไปยุ่งแต่กับเรื่องการเมือง ทุกอย่างมันหยุดไปหมด แล้วรัฐบาลจะทำอะไรได้ วันนี้จึงอยากขอร้องประชาชนทุกคนที่มีขีดความสามารถในการใช้จ่ายเงินต้องช่วยกัน มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ส่วนคนที่ไม่มี รัฐบาลก็จะดูแลให้สามารถดำรงชีพอยู่ต่อไปได้ นี่ถือเป็นหลักการสำคัญ ถ้าเราไม่ช่วยกัน ทุกคนไม่ยอมเสียอะไรเลย อยากจะได้เพียงอย่างเดียว ก็ไม่มีใครทำอะไรให้ได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นต้องหามาตรการเพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายภายในประเทศให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยเงินเหล่านี้จะลงไปในพื้นที่ต่างๆเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต ทั้งเอสเอ็มอี โรงงานอุตสาหกรรม ที่เป็นภาคการผลิต แต่ถ้าคนซื้อไม่ยอมซื้อและไม่กล้าใช้จ่ายเงิน แล้วจะไปผลิตให้ใคร ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในไตรมาสแรกผ่านไปแล้ว 2 เดือน เหลืออีก 1 เดือน จากนั้นต้องมาดูในไตรมาส 2 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพราะถ้ามีปัญหาผลกระทบจะตกไปอยู่ที่ประชาชน รัฐบาลจึงต้องหามาตรการที่เหมาะสม แต่ก็ต้องระมัดระวังในข้อกฎหมายทุกประการ โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณ รัฐบาลนี้ระมัดระวังอย่างเต็มที่ ทำงานทุกอย่างด้วยความรอบคอบ หลายอย่างคนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแก้แบบนี้ แต่เราจำเป็นต้องแก้ไขให้เป็นระบบเพื่อไม่ให้เป็นภาระรัฐบาลต่อๆไป เหมือนกับที่ปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นมาก่อนรัฐบาลนี้ แต่เราต้องมาแก้ปัญหา ทั้งปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ปัญหาสิทธิประโยชน์ การร่วมลงทุนการค้า เพราะทุกอย่างรัฐบาลเป็นคู่สัญญาทั้งสิ้น เมื่อเกิดปัญหารัฐบาลต้องรับผิดชอบและแก้ปัญหาให้ได้ ทุกอย่างจึงต้องช่วยรัฐบาลในการแก้ปัญหา ไม่อย่างนั้นก็จะตีกันไปมา เรื่องก็จะไม่จบ แก้ปัญหาไม่ได้ ประชาชนก็ไม่เข้าใจ ก็ไปโพสต์ข้อความกันต่อ กลายเป็นปัญหาให้รัฐบาลทำงานได้ยากขึ้น อีกทั้งสถานการณ์ก็บังคับ แต่ถ้าทุกคนร่วมมือกันก็จะไปได้ทั้งหมด อย่าลืมว่าประเทศเรามีศักยภาพ เพียงแต่เราต้องรักกัน สามัคคีกันให้มากขึ้น ต้องเข้าใจระบบเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าทุกคนเรียกร้องอยากได้ แต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือก็ไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้ ไม่ว่าจะออกมาตรการอะไรออกมาก็ตาม”
ถาม … ฝ่ายการเมืองวิจารณ์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้นสื่อ เป็นใบสั่งของ คสช.เพื่อสกัดดาวรุ่ง ตอบ
“อยากจะบอกครั้งที่ร้อยแล้วว่า คสช.ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของกฎหมายเลือกตั้ง เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างเป็นดุลยพินิจของ กกต. หลายอย่างเข้าสู่กระบวนการศาล ซึ่งตนไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้อยู่แล้วทั้งหมด ตนเคยบอกมาตั้งนานแล้ว จะไปสั่งอะไรใครเขาไม่ได้หรอก”
matemnews.com
24 เมษายน 2562