เมื่อช่วงเช้ามืด วันที่ 9 พ.ค. นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก รับแจ้งจากกำนัน ต.แม่กุ มีเหตุเพลิงไหม้โกดังแปรรูปไม้และลุกลามไหม้โรงงานผลิต เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยเหตุเกิดภายในโกดังชื่อ นกเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 205 หมู่ที่ 1 บ้านแม่กุหลวง ต.แม่กุ อ.แม่สอด จึงได้ประสาน พ.ต.ท.จิรศักดิ์ ศรีธรรม รอง ผกก.สอบสวน สภ.แม่สอด อส.อ.แม่สอด พร้อมตำรวจ ทหาร และหน่วยดับเพลิงจากหลายท้องที่ได้ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ร่วมกันเดินทางไปดับเพลิง
ที่เกิดเหตุเป็นโกดังเก็บไม้ท่อน อาคารไม้ขนาดใหญ่ และเปิดเป็นโรงเลื่อยไม้แปรรูปที่มีไม้วางทับอยู่จำนวนมาก โดยแสงเพลิงลุกสูงกว่า 10 เมตร สามารถมองเห็นได้ชัดเจนทั้งฝั่งไทยและเมียนมา
ชาวบ้านในหมู่บ้านและคนงานในโกดังเกิดเหตุหลายสิบคนต้องรีบเข้าไปช่วยดับเพลิงเบื้องต้นแต่ไม่เป็นผล ด้วยไม้ที่เป็นเชื้อไฟอย่างดี ก่อนจะเกิดลมพัดกระโชกอย่างรุนแรงทำให้เพลิงลุกลามจากโกดัง ไปส่วนโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องรีบระดมกำลังเข้าไปช่วยกันยกตู้ไม้เฟอร์นิเจอร์ออกจากโรงงานและสามารถยกนำออกมาได้เพียงบางส่วน ก่อนเพลิงจะลามไหม้ไปครึ่ง
หน่วยดับเพลิงพร้อมรถดับเพลิงจำนวนกว่า 10 คัน ต้องระดมฉีดน้ำป้องกันและสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากโกดังต้นเพลิงมีกองไม้จำนวนมากจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จนเวลาผ่านไปนานกว่า 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นพบโกดังเก็บไม้แปรรูปเสียหายทั้งหลัง และโรงงานผลิตตู้ไม้เฟอร์นิเจอร์ที่สร้างติดกันเสียหายไปครึ่งหลัง แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
นางนงคราญ มั่งตั๋น อายุ 61 ปี เจ้าของโรงงาน ให้การเบื้องต้นว่า โกดังเก็บไม้และโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่แห่งนี้เปิดมานานหลายปีจนเป็นที่รู้จักของคนไทยและคนเมียนมา ขณะเกิดเหตุมีคนงานนอนพักอาศัยที่บ้านพักใกล้กับโกดังเก็บไม้แปรรูป ซึ่งระหว่างนั้นคนงานได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงออกมาตรวจสอบก็พบมีเพลิงไหม้ไปทั่วโกดังเก็บไม้อย่างรวดเร็ว คนงานจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้มาช่วยขนย้ายสิ่งของ จนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุต้องระดมฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่า 4 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ ซึ่งมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นหลายล้านบาท ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ