กรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ร่วมกับนายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี และตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ตรวจสอบร้านคาราโอเกะ ซอยประชาราษฎร์ ถนนนิตโย เทศบาลนครอุดรธานี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (10 พ.ค.) ซึ่งลักลอบค้าประเวณีหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี และจับกุมเจ้าของร้านดำเนินคดี 11 ข้อหา พร้อมเสนอผู้ว่าฯ อุดธานีเพื่อสั่งปิดเป็นเวลา 5 ปี
นายมานะ กล่าวว่า การสืบสวนเบื้องต้นพบว่ามีตำรวจนายหนึ่งในพื้นที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของร้านในฐานะเป็นสามี เข้าข่ายกรณีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ทางกองคดีการค้ามนุษย์กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงลงพื้นที่ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้น รวมทั้งจะเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขออนุมัติเป็นคดีพิเศษ และรับโอนสำนวนการสอบสวนจาก สภ.เมืองอุดรธานี
พล.ต.ต.วรณัฐฎ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า มีดาบตำรวจนายหนึ่งสังกัด สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ประจำศาลจังหวัด ได้แยกกันอยู่กับภรรยาที่เป็นเจ้าของร้านมานานแล้ว แต่ยังไปมาหาสู่กัน เพราะมีลูกด้วยกัน ล่าสุดได้มีคำสั่งย้ายดาบตำรวจรายนี้ไปปฏิบัติงานที่ ศปก.ภ.จว.อุดรธานี รวมทั้งมีคำสั่งให้ตำรวจชั้นสัญญาบัตร 3 นาย สภ.เมืองอุดรธานี ไปประจำที่ ศปก.ภ.จว.อุดรธานี ได้แก่ พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผู้กำกับการ พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ท.อัครบุตร อัครสุขบุตร รอง ผกก.สส. พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการไปตามระเบียบ