ชาวบ้านแฉขรก.หลอกประยุทธ์
นายกฯกลับไฟดับ-เสาหาย-ประปาถูกตัด
ชาวบ้านสระแก้ว แฉขรก.ปลูกผักชีโรยหน้า หลอก“ประยุทธ์” เผยสร้างถนนเข้าหมู่บ้าน พอนายกฯกลับ เสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าถูกรื้อกลับหมด น้ำประปาถูกตัดขาด
เมื่อ 1 ก.ย. 2560 ชาวบ้านหมู่ที่ 14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมามอบหนังสืออนุญาตให้สถาบันเกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดิน อำเภอ (คทช.) ที่หมู่ 14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยจัดสรรให้เกษตรผู้ยากไร้รายละ 6 ไร่ แยกเป็นแปลงที่อยู่อาศัย 1 ไร่ แปลงเกษตรกรรมจำนวน 5 ไร่ จำนวน 65 ราย
ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางมาแจกเอกสารสิทธ์ดังกล่าว ได้มีการสร้างถนนเข้าหมู่บ้าน ทำระบบประปา โดยสูบน้ำบาดาลมาใช้ได้ ในขณะที่นายกรัฐมนรี เป็นประธานเปิดน้ำ จากวาล์วปิดเปิดประปา ให้น้ำไหลเข้าสู่แปลงเกษตรกรรม 5 ไร่ อีกด้วย
ส่วนไฟฟ้า ได้ติดตั้งเสาไฟฟ้า ตลอดข้างทางเข้าไปในหมู่บ้าน สามารถใช้กระแสไฟฟ้า ได้ตามปกติ การดำเนินการจัดสรรพื้นที่ให้เกษตรกรผู้ยากไร้ให้มีที่ทำกิน เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยือน ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ ผู้ที่มาพบเห็น ต่างชื่นชมว่า การจัดสรรที่ทำกินให้เกษตรกร ในเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน ในพื้นที่ยึดคืน มีความราบรื่น เกษตรกรผู้ได้รับต่างดีใจ จะได้มีชีวิตที่ดี มีที่ดินทำกิน เป็นของตนเอง
แต่หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางกลับเพียงข้ามคืน สภาพพื้นที่ ที่นายกฯ มาเยือนได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าถูกรื้อกลับหมด น้ำประปาถูกตัดขาด ชาวบ้านไม่มีน้ำรดต้นไม้และพืชผักที่ปลูกไว้ เริ่มเห่ยวเฉา วัวที่เลี้ยงไม่มีน้ำให้กิน ถังน้ำที่ตั้งไว้หน้าคอกวัว เพื่อใส่น้ำให้วัวได้ดื่มกิน ถูกยกไป 2 ถังเหลืออยู่ 2 ถัง ดูเหมือนว่า การมาเยือนของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ถูกหลอก คล้ายผักชีโรยหน้า”
นายพิมพ์ เดิมพันธ์ อายุ 49 ปี ชาว ต.หนองม่วง กล่าวว่า ชาวบ้านต้องการไฟฟ้าและน้ำประปา ขณะที่นายกรัฐมนตรีมา ระบบไฟฟ้า ระบบประปาผ่านหมด พอนายกฯกลับไป วันรุ่งขึ้นเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้าที่เดินตามเสาไว้ เขาเก็บไปหมดเลย น้ำประปาก็ไม่มีใช้ ไม่มีไฟฟ้าสูบน้ำบาดาล
“พวกผมทำการเกษตรก็ทำไม่ได้ ขอให้หน่วยงานทุกหน่วยงานช่วยทางด้านนี้ด้วย วัวของกลุ่มประชารัฐ จำนวน 63 ตัว ไม่มีน้ำให้วัวกิน ต้องขอรถน้ำจาก อบต.ขนมาให้วัวกิน และขณะนี้ก็ไม่มีเงินเติมน้ำมันรถไปเอาน้ำ ชาวบ้านลำบากมาก จะสร้างบ้านต่อก็สร้างไม่ได้เพราะไม่มีไฟฟ้า ไม่สามารถเชื่อมเหล็กได้ พอตกกลางคืนก็มืดสนิท ชาวบ้านต้องหาฟืนมาก่อไฟ ใช้ฟืนหุงข้าว ที่คอกวัวต้องก่อไฟ ให้แสงสว่าง”
PEACE NEWS
ต่อมาวันที่ 2 ก.ย.2560 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงแก่ผู้สื่อข่าว ว่า กรณีที่มีสื่อมวลชนบางฉบับนำเสนอข่าวประชาชนใน ม.14 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ร้องเรียนว่าเสาไฟฟ้าได้ถูกรื้อถอน และระบบประปาถูกตัดขาด ทั้งที่เมื่อครั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไปมอบหนังสืออนุญาตให้สถาบันเกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในเขตที่ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการสร้างถนนเข้าหมู่บ้าน พร้อมกับติดตั้งระบบไฟฟ้าและน้ำประปานนั้น เรื่องนี้อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้ร้องเรียน โดยจังหวัดสระแก้วรายงานว่าขณะนี้พื้นที่จัดสรรที่ดินส.ป.ก.ดังกล่าวยังไม่มีการขยายเขตไฟฟ้าและประปาเข้าไปในพื้นที่ เนื่องจากยังไม่มีประชาชนหรือเกษตรกรตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัยในบริเวณนั้น สำหรับเสาไฟฟ้าถูกรื้อถอนนั้น ในวันที่นายกฯไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอรัญประเทศได้ปักเสาไฟฟ้าและพาดสายไฟฟ้าชั่วคราว พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่ ส่วนระบบน้ำที่นำมาใช้เป็นเพียงการต่อท่อลงในแปลงเกษตร เพื่อสาธิตให้เห็นถึงต้นแบบการดำรงชีวิตของเกษตรกรที่เหมาะสมว่าควรเป็นเช่นไร โดยนำน้ำมาจากถังน้ำที่รถบรรทุกขนส่งน้ำไปเติมไว้ก่อนแล้ว ร่วมกับการใช้กระแสไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสูบน้ำไปใช้ในพื้นที่ และเมื่อเสร็จภารกิจเจ้าหน้าที่จึงได้รื้อถอนระบบกลับคืน
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีวัวประชารัฐขาดน้ำกินนั้น สำนักงานปศุสัตว์จ.สระแก้ว ยืนยันว่าวัวประชารัฐทุกตัวได้รับการดูแลเป็นอย่างดีทั้งในเรื่องอาหารและน้ำ อย่างไรก็ตาม ในวันที่(2 ก.ย.) ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้นำคณะเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องไปพบประชาชน เกษตรกร และผู้สื่อข่าวในพื้นที่ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าถ้ามีประชาชนปลูกที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว และมีเลขที่บ้านแล้ว สามารถยื่นเรื่องขอติดตั้งระบบไฟฟ้าและประปาถาวรได้ตามระเบียบของทางราชการ ขณะเดียวกัน นายกฯห่วงใยความรู้สึกของประชาชน จึงกำชับว่าต่อไปขอให้เจ้าหน้าที่เตรียมการเท่าที่จำเป็น และทำด้วยความระมัดระวัง หากมีการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดหรือกระทบความรู้สึกของประชาชน ก็จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจด้วยความรัดกุม ทั้งก่อนและหลังการปฏิบัติงาน.
matemnews.com 2 กันยายน 2560