Home ข่าวทั่วไปรอบวัน มูมมาม – หลอกหลอนประเทศไทยไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

มูมมาม – หลอกหลอนประเทศไทยไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

356
0
SHARE

 

 

เฟชบุ้ค  หมวดเจี๊ยบ Sunisa Divakorndamrong

 

ภาพการยื้อแย่งเก้าอี้ในรัฐบาลของพรรคการเมืองต่าง ๆ อย่างมูมมามในขณะนี้ ชี้ให้เห็นความล้มเหลวของกติกาการเลือกตั้งที่ออกแบบโดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งทำให้ผลการเลือกตั้งบิดเบี้ยว จนเกิดระบบรัฐบาลผสมเกือบยี่สิบพรรค จะบริหารประเทศอย่างเป็นเอกภาพได้ยังไง ทั้งยังสะท้อนถึงความไร้เสถียรภาพทางการเมืองโดยยังไม่ต้องดูหน้าตา ค.ร.ม. ด้วยซ้ำ

 

และเป็นลางร้ายว่า ต่อไปนี้ การเมืองจะกลายเป็นเรื่องของการต่อรองผลประโยชน์ เพราะรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ จึงต้องง้อพรรคเล็กพรรคน้อย เพื่อแลกกับการยกมือสนับสนุนในสภาฯ ซึ่งจะเป็นช่องทางหากินของนักการเมืองที่ไม่ดีและใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวได้ง่าย ซึ่งจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา

 

จะเห็นว่า สวนดุสิตโพลล่าสุดระบุว่า คนไทย ร้อยละ 72.2 มองการแย่งเก้าอี้ในรัฐบาลว่าเป็นการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เพราะเป็นกระทรวงที่มีงบประมาณมาก ไม่ได้มองว่าเป็นการแย่งกระทรวงกันทำงานแต่อย่างใด

 

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ระบบการเมืองไทยอ่อนแอในขณะนี้ มีต้นตอมาจากรัฐธรรมนูญ ทางแก้คือต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ไม่ใช่แก้แค่เพียงบางมาตรา เพราะมีการหมกเม็ดกลไกสืบทอดอำนาจเผด็จการไว้ในรัฐธรรมนูญเต็มไปหมด และมีการวางโครงสร้างทางอำนาจแบบผิด ๆ อย่างเป็นระบบ จึงต้องวางโครงสร้างทางการเมืองกันใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอย่างแท้จริง

 

ดังนั้น การแก้รัฐธรรมนูญแค่บางมาตราโดยไม่แตะโครงสร้างอำนาจจะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง

 

แต่ประชาชนที่เห็นพิษภัยของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยสร้างแรงกดดันทางสังคมนอกสภาฯ ด้วยอีกทางหนึ่ง เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่ารอให้นักการเมืองแก้ฝ่ายเดียว

 

เพราะต้องยอมรับว่าพรรคการเมืองบางพรรคที่ได้ประโยชน์จากกติกาการเลือกตั้งบิด ๆ เบี้ยวแบบนี้ ก็คงไม่อยากเปลี่ยนกติกาเลือกตั้ง โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ไม่หวังชัยชนะในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต แต่ก็ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ทั้ง ๆ ที่ รู้ตัวว่าจะแพ้ เพราะถึงจะแพ้ ก็ยังเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อได้ เช่นกัน จากการรวบรวมคะแนนที่แพ้จากหลาย ๆ เขต ซึ่งไม่ใช่หลักคิดที่ดีในการคัดกรองผู้แทนราษฎร และผิดหลักของการแข่งขันเพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมที่สุดมาเป็นตัวแทนปวงชน

 

จะเห็นว่านี่เป็นกติกาเลือกตั้งที่ประชาชนเสียประโยชน์ แต่นักการเมืองบางพรรคได้ประโยชน์ ซึ่งคนที่ได้เป็น ส.ส. เพราะรัฐธรรมนูญแบบนี้ย่อมไม่ไม่ดิ้นรนที่จะเปลี่ยนกติกาเลือกตั้ง ทั้ง ๆ ที่ กติกาแบบนี้ ทำให้เจตจำนงในการลงคะแนนเลือกตั้งของประชาชนถูกบิดเบือนและผิดเพี้ยนไปจากความต้องการที่แท้จริง ทั้งยังทำให้ระบบการเมืองอ่อนแอ และทำลายความเข้มแข็งของระบบรัฐสภา

 

หากประชาชนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง ก็ต้องมีส่วนร่วมโดยการสร้างแรงกดดันทางสังคมและต้องหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อยกระดับให้เป็นประเด็นสาธารณะ ไม่อย่างนั้น ระบอบรัฐประหารจะหลอกหลอนประเทศไทยไปจนชั่วลูกชั่วหลาน.

 

 

matemnews.com

9 มิถุนายน 2562