Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์ฝันอะไรในที่ประชุมอาเซียน

พลเอกประยุทธ์ฝันอะไรในที่ประชุมอาเซียน

443
0
SHARE

 

 

เว็บไซต์รัฐบาลไทยเผยแพร่

 

ถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรี พิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๔

วันอาทิตย์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๐๐ – ๐๙.๔๕ น. ณ ห้อง Crystal Hall โรงแรมดิ แอทธินี กรุงเทพฯ

 

Your Majesty,

Excellencies,

Honoured Guests,

I wish to welcome all of you to the Kingdom of Thailand, the birthplace of ASEAN.

 

อาเซียน: ประชาคมที่กล้าฝัน ประชาคมที่ยินดีแบ่งปัน

“We dare to dream, we care to share.” เรากล้าฝัน เรายินดีแบ่งปัน เนื้อร้องจากเพลงดิอาเซียนเวย์ (The ASEAN Way) ที่ได้ยินเมื่อสักครู่นี้ สะท้อนเส้นทางตลอด ๕ ทศวรรษของอาเซียนได้ดีที่สุด

เมื่อ 52 ปีที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลงนาม

ในปฏิญญากรุงเทพฯ ที่พระราชวังสราญรมย์ ถือเป็นจุดกำเนิดของอาเซียน คงมีน้อยคนที่จะคาดคิดว่า ด้วยความกล้า

ที่จะฝันในวันนั้น อาเซียนพัฒนาจากสมาคมเล็ก ๆ ของ 5 ชาติสู่ประชาคมที่เหนียวแน่นของ 10 ประเทศ และด้วยความกล้าที่จะฝันจากรุ่นสู่รุ่น เราเติบโตเป็นประชาคมที่เป็นปึกแผ่น มีสันติภาพและมั่นคง มีกฎกติกา เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของโลก และมีความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกสาขาเพื่อประโยชน์ของประชาชนอาเซียนทุกคน

เราร่วมทุกข์ ร่วมสุข ฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันมาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคสงครามเย็นจนถึงปัจจุบัน ในวันที่เราประสบกับวิกฤตทางการเงินและเศรษฐกิจในเอเชีย อาเซียนคือพลังสำคัญที่จับมือกับมิตรประเทศฟันฝ่าอุปสรรคและสามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ในวันที่เราพบเจอกับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ หรือพายุไซโคลน พวกเราชาวอาเซียนก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน หากแต่จะยื่นมือช่วยเหลือกัน ด้วยจิตสำนึกของการเป็นประชาคมเดียวกัน วันนี้ ภูมิภาคของเรายังสงบสุข ปราศจากสงครามและการสู้รบ เพราะอาเซียนย้ำเตือนให้พวกเราเคารพในความแตกต่าง หลากหลาย และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

วันนี้ พวกเราผู้นำอาเซียนจะร่วมกันประกาศการเปิดตัวคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียนภายใต้โครงการจัดตั้งระบบโลจิสติกส์ฉุกเฉินสำหรับใช้ในกรณีเกิดภัยพิบัติของอาเซียน (DELSA) และการยกระดับศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนเป็นองค์กรของอาเซียนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของอาเซียนในการบริหารจัดการผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ

และในยุคนี้ ที่การแข่งขันทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศเข้มข้นขึ้น ปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติเพิ่มสูงขึ้น เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเปลี่ยนแปลงชีวิตมากขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำลายระบบนิเวศให้เสื่อมโทรม หากไม่มีอาเซียน เราจะรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างไร แต่ละประเทศโดยลำพังจะสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายทุกอย่างได้มากน้อยเพียงใด ผมเชื่อมั่นว่าพลังของอาเซียนที่เข้มแข็งและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันคือคำตอบที่จะช่วยให้พวกเราก้าวผ่านทุกความท้าทาย

ในครั้งนี้ และสามารถวางรากฐานที่มั่นคงให้กับอนุชนรุ่นหลังได้

 

กล้าฝัน

นั่นเป็นเหตุผลที่ไทยประกาศแนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน (Advancing Partnership for Sustainability)” ด้วยความฝันที่จะให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยต่อยอดจากสิ่งดี ๆ ที่อาเซียนได้สร้างกันมาในอดีต และมองไปสู่อนาคตเพื่อความสุขของชนรุ่นหลังที่จะเห็นภูมิภาคที่มีสันติภาพ เสถียรภาพ และความรุ่งเรืองต่อไปอย่างยั่งยืน

ประการแรก เราฝันที่จะเห็นอาเซียนก้าวไกล (Advancing) ให้อาเซียนมองและก้าวไปสู่อนาคตด้วยกัน

อย่างไม่หยุดนิ่ง ใช้ประโยชน์จากยุค ๔.๐ สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างภูมิคุ้มกันจากเทคโนโลยีก้าวกระโดด เพื่อมุ่งไปสู่ดิจิทัลอาเซียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Digital and Green ASEAN)

ประการที่สอง เราฝันที่จะเห็นอาเซียนร่วมมือ ร่วมใจ (Partnership) ด้วยการร่วมมือที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งในอาเซียนกันเองและกับภาคีนอกภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นแกนกลางของภูมิภาค และเพิ่มบทบาทอาเซียนในการแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมไปถึงส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล กฎระเบียบ และความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน เพื่อก้าวไปสู่อาเซียนที่ไร้รอยต่อ (Seamless ASEAN) และเชื่อมโยงกับประชาคมโลกโดยผ่านยุทธศาสตร์เชื่อมความเชื่อมโยงของทุกฝ่าย

และประการสุดท้าย เราฝันที่จะเห็นอาเซียนมีความยั่งยืน (Sustainability) คือความยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนับจากนี้ ความยั่งยืนในทุกมิติหรือ เอสโอที (Sustainability of Things) คือแนวทางใหม่ที่อาเซียนต้องคำนึงถึงในทุกการตัดสินใจ และจะอยู่ในดีเอ็นเอของอาเซียนที่ถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นหน้า เนื่องจากประชาคมอาเซียนที่ยั่งยืนจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางยุทธศาสตร์ให้อาเซียนในระยะยาว เพื่อเป็นเกราะให้กับประชาชนของเราต่อความเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคและโลก

ยินดีแบ่งปัน

ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย

ในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ ไทยจะสานต่อข้อริเริ่มของประธานอาเซียนในปีที่ผ่าน ๆ มา และขับเคลื่อน

การดำเนินงาน เพื่อบรรลุความฝันที่วางไว้และให้ประชาชนของอาเซียนทั้งรุ่นนี้และรุ่นหน้าสามารถรับมือกับ

ความท้าทายและได้ประโยชน์จากอาเซียนใน ๓ มิติสำคัญ ดังนี้

  1. มั่นคงขึ้น พวกเราจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วได้ดีขึ้น เช่น มิติความมั่นคงทางไซเบอร์ พวกเราจะได้รับประโยชน์จากการจัดตั้งศูนย์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ไทย ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาคให้รับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ในมิติอาชญากรรมข้ามชาติที่มีอัตราสูงขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน อาเซียนจะส่งเสริมการบริหารจัดการชายแดนเพื่อป้องกัน

ภัยคุกคามจากอาชญากรรมข้ามชาติและอำนวยความสะดวกให้การค้า การลงทุน และการเดินทางสัญจรข้ามพรมแดนของพวกเรามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และท้ายที่สุดคือการมีภูมิคุ้มกันที่จะรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น พวกเราจะได้รับความมั่นใจได้ว่า ในกรณีที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ คลังเก็บสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในอาเซียนที่จังหวัดชัยนาท จะพร้อมสนับสนุนสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ในทุกที่และทุกเมื่อได้อย่างทันท่วงที

  1. มั่งคั่งขึ้น กระแสต่อต้านระบบการค้าพหุภาคีเป็นเครื่องย้ำเตือนว่า อาเซียนต้องจับมือกันแน่นขึ้นและผลักดันให้การเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ อาร์เซ็ป (RCEP) แล้วเสร็จ

ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อาร์เซ็ปกลายเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และช่วยรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก

ความตึงเครียดทางการค้า (trade tension)ระหว่างคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียนในอนาคต อีกความมั่งคั่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้น คือการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน ซึ่งคาดว่า จะช่วยเพิ่มจีดีพีของอาเซียนอีก ๑ แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ค.ศ. ๒๐๒๕ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในยุคโฟร์ไออาร์ (4IR) และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ เอ็มเอสเอ็มอี (MSMEs) แรงงานมีทักษะ ผู้ประกอบการวิชาชีพ และภาคการเกษตร โดยเฉพาะการสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่อุปทานของสินค้าเกษตร เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและช่องว่างการพัฒนา รวมทั้งใช้ประโยชน์จากอีอีซี (EEC) และการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่าง ๆ ทั้งในแอคเมคส์ (ACMECS) ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและอินโด-แปซิฟิก

  1. ยั่งยืนขึ้น อาเซียนจะขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนที่จะจัดตั้งขึ้นในไทยเป็นกลไกสำคัญ ในมิติความมั่นคงของมนุษย์ อาเซียนจะพัฒนาศักยภาพของประชาชนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยการฝึกฝนและพัฒนาทักษะให้ผู้สูงวัยอาเซียนผ่านการดำเนินงานของศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและมีนวัตกรรมที่จะจัดตั้งในไทย ในมิติความยั่งยืนของความสัมพันธ์ระดับประชาชน พวกเราจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้อัตลักษณ์และวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน จากการประกาศรับรองปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน ๒๕๖๒ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากศูนย์วัฒนธรรมอาเซียนในไทยด้วย ในมิติสิ่งแวดล้อม อาเซียนจัดทำกรอบปฏิบัติงานด้านขยะทะเลฉบับแรกและจะส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืนเพื่อให้พื้นที่ทางทะเลของเรามีความยั่งยืน ท้ายที่สุด มิติของการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนด้วยเครือข่ายเมืองอัจฉริยะ จะเป็นต้นแบบของการพัฒนาเมืองสมัยใหม่ที่พัฒนาทั้งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ควบคู่กับการขจัดความเหลื่อมล้ำและเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน เพื่อประโยชน์ของพวกเรา ประชาชนชาวอาเซียนในระยะยาว

ร่วมฝัน ร่วมแบ่งปัน: อาเซียนของพวกเราทุกคน

ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย

วันนี้ ถึงเวลาของคนรุ่นนี้ที่จะร่วมขับเคลื่อนความฝันสู่การลงมือทำเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งอาเซียนเมื่อกว่า ๕ ทศวรรษที่แล้ว ที่จะสร้างภูมิภาคแห่งสันติสุขและความก้าวหน้าให้กับประชาชนอาเซียนทุกคน และวางรากฐานที่มั่นคงแข็งแรงให้คนรุ่นหน้าในอีกครึ่งศตวรรษหลังจากนี้

ประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกประเทศสมาชิกทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และที่สำคัญที่สุด เจ้าของประชาคมอาเซียน นั่นคือประชาชนทุกคน ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ เชิญชวนทุกท่านทั้งในห้องนี้ และพวกเราชาวอาเซียนทุกท่าน ปลุกดีเอ็นเอความเป็นอาเซียนในตัว และร่วมแรงร่วมใจ จับมือกันให้เข้มแข็งและก้าวไปข้างหน้า เพื่อวางรากฐานให้ประชาคมอาเซียนมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต โดยคำนึงถึงความยั่งยืนในทุกมิติโดยแท้จริง

ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทยอีกครั้งครับ ขอบคุณครับ

 

matemnews.com 

23 มิถุนายน 2562