Home ข่าวทั่วไปรอบวัน เรืองไกรเล่นของใหญ่เลยทีนี้  ปมถือหุ้นสื่อสะท้านทั้ง ส.ว.และกรรมการสรรหาของ คสช.

เรืองไกรเล่นของใหญ่เลยทีนี้  ปมถือหุ้นสื่อสะท้านทั้ง ส.ว.และกรรมการสรรหาของ คสช.

334
0
SHARE

 

 

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ปรากฏตัวที่หน้าห้องเจ้าหน้าที่รับเรื่อง  สำนักงาน กกต.ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อตอนเช้าวันที่ 24 มิ.ย.2562  มาพร้อมกับ นายณรงค์ รุ่งธนวงศ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและสถิติพรรคเพื่อไทย   ยื่นหนังสือขอให้ กกต.ตรวจสอบสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สิ้นสุดลง เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่ และขอให้รีบส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยและสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่

 

นายเรืองไกร แถลงแก่นักข่าว ว่า ส.ว.หลายคนอาจจะสงสัยว่าโอนหุ้นไปแล้ว เหตุใดยังถูกยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ จึงอยากชี้แจงว่า  มีความจำเป็นต้องยื่นคำร้องให้ กกต. เรียกเข้ามาให้ข้อมูล เพื่อให้เปิดเผยขั้นตอนการสรรหา ส.ว. ของคณะกรรมการสรรหาที่ตั้งขึ้นมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะผิดถูกอย่างไร หรือต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของ กกต.สำหรับ ส.ว.อีก 200 คนยังไม่ต้องน้อยใจ ทุกคนจะถูกตรวจสอบทั้งหมด โดยขณะนี้ตนกำลังร่วมกับ 7 พรรคการเมืองตรวจสอบข้อมูล รวมถึง ส.ส. 55 รายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กำลังจะยื่นตรวจสอบ

 

นายเรืองไกร เน้นว่า ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อต้องโอนหุ้นเมื่อได้รับการทาบทามจากคณะกรรมการสรรหา  เนื่องจากทุกคนจะต้องกรอกข้อความในหนังสือรับรองตัวเองว่า มีคุณสมบัติครบถ้วน และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ส่วน ส.ว.ที่มาจากการสมัครและผ่านการคัดเลือกกันเอง จะต้องโอนหุ้นให้แล้วเสร็จก่อนวันสมัคร  เทียบเคียงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องกรอกหนังสือรับรองว่า ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ  จนถึงขณะนี้ไม่มีใครรู้ว่าคณะกรรมการสรรหา ส.ว. วางระเบียบและวิธีการในการสรรหาไว้อย่างไร การประชุมในแต่ละครั้งองค์ประชุมครบหรือไม่   รายละเอียดทั้งหมดจะต้องถูกเปิดเผยโดย กกต. จะต้องเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด และเมื่อเห็นรายละเอียดในวิธีการและขั้นตอน ส่วนตัวเชื่อว่าขั้นตอนไม่ถูกต้อง โดยคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ไม่ได้กำหนดขั้นตอนและไม่มีวิธีการอะไรเลย โดยก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบแล้ว ตามที่นายวิษณุ บอกว่า คณะกรรมการสรรหา ส.ว.ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อกรรมการได้นั้น  ไม่จริง  ขออย่าใช้รัฐธรรมนูญลักลั่น ตนไม่อยากใช้คำว่า อย่าแถกันไปมา แต่เรื่องคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามกำหนดไว้ชัดในรัฐธรรมนูญ ส.ว.จึงต้องโอนหุ้นให้แล้วเสร็จเมื่อได้รับการทาบทาม หรือในช่วงต้นเดือน ก.พ.62 ส่วนที่  นายวันชัย สอนศิริ ขู่จะฟ้องกลับตนนั้นก้ ยินดี เพราะตามข้อเท็จจริงนายวันชัย โอนหุ้นให้ลูกเขยในเดือน เม.ย. ไม่ใช่เดือนก.พ.

 

นอกจากนี้ตนจะตรวจสอบการถือหุ้นของ ส.ว.อีกกว่า 400 คน ทั้งที่อยู่ในบัญชีสำรอง และผู้ได้รับการคัดเลือกในรอบแรก โดยเฉพาะ  นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน ส.ว. ที่ตรวจสอบได้เบื้องต้นพบว่าถือหุ้นในบริษัทใหญ่ แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เรื่องการดำเนินธุรกิจสื่อ หรือ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวาณิช ที่ถือหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่ถือหุ้นด้วยตัวเองและภรรยาจำนวนมาก โดยเฉพาะหุ้นของมหาวิทยาลัยเอกชน

 

matemnews.com

24 มิถุนายน 2562