“มีผู้บัญชาการตำรวจภาค ยศพลตำรวจโท โทรศัพท์มาคุยขอข้อมูลเรื่องนี้กับผมแล้ว ผมก็บอกว่า เห็นด้วยกับโครงการนี้ เพราะเป็นการช่วยคนจนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ในตอนเริ่มต้นโครงการใหม่ๆ ก็โอเค แต่ตอนหลัง มันไม่ใช่ของจริง มีจำนวนเยอะมาก ผมจึงยกตัวอย่างให้ผู้บัญชาการภาคทราบว่า ข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สตช. (ศปฉช.ตร.) ที่ผมโพสต์เฟซบุ๊กบอกว่า ไกล่เกลี่ยไปแล้ว 24,000 ราย คืนโฉนดไป 20,000 ฉบับ มันเป็นคดีที่ยอมความกันไม่ได้ แต่ตำรวจกลับไปไกล่เกลี่ยคดี ผมจึงอยากทราบว่า ตำรวจใช้อำนาจอะไรที่ไม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย และถ้าไกล่เกลี่ยคดีไปแล้ว มีสถิติและรายละเอียดหรือไม่ ผมจึงสันนิษฐานว่า กรณีนี้ไม่เป็นความจริง เพราะตำรวจไม่มีอำนาจในการไกล่เกลี่ย ต้องดำเนินคดีเท่านั้น โดยเฉพาะระยะหลัง มีการสร้างภาพว่า ไปจับนายทุนเงินกู้มา จับจริงอาจจะ 1 – 2 ราย มีสัญญาเงินกู้ 5 ฉบับ ก็มีการมาต่อรองว่า ใช้สัญญาเงินกู้ 2 ฉบับพอ แล้วไปหาโฉนดที่ดินของพรรคพวกคุณมาให้ผม 20 ใบ แล้วจะให้นายเขามาแจกคืน ในวันที่เขาทำพิธี พอทำอย่างนี้ คนเขาก็เดือดร้อนว่า จะเอาโฉนดที่ดินที่ไหนไปให้ แต่เมื่อต่อรองคดีว่า จะไม่ถูกดำเนินคดีในหลายๆกรรม เขาก็ต้องวิ่งหาโฉนดที่ดินให้ได้ มีลักษณะเช่นนี้เป็นจำนวนมาก ผู้บังคับการตำรวจภาคก็รับปากว่า จะรับข้อสังเกตของผมไว้ แล้วจะดำเนินคดีตามความเป็นจริง เขาจะมีพิธีแจกโฉนดที่ดินอีกครั้ง ในเร็วๆ นี้ ที่จ.กาญจนบุรี”
นักข่าวถามว่าตำรวจที่ยกหูมาคุยยอมรับหรือไม่ว่า ตำรวจไม่มีอำนาจในการไกล่เกลี่ยคดีเก็บดอกเบี้ยเงินกู้เกินกว่ากฎหมายกำหนด นายนิพิฏฐ์ ตอบ
“เขาก็ไม่ยอมรับเลยทีเดียว เพียงแต่รู้กันว่า ในทางกฎหมายที่บัญญัติไว้ ตำรวจไม่มีสิทธิ แต่พอมาแถลงว่า ไกล่เกลี่ยไปแล้ว 20,000 กว่าราย คนที่เป็นนักกฎหมาย ที่รู้กฎหมาย เขาก็แปลกใจและตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายกำหนดอย่างนี้ แล้วไปไกล่เกลี่ยคดีได้อย่างไร เพราะถือเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ผมคงไม่ฝากอะไรเป็นพิเศษไปถึงพลเอกประวิตร การทำคดีเพื่อช่วยเหลือประชาชนคนยากคนจน เป็นสิ่งที่ผมเห็นด้วยและสนับสนุนอยู่แล้ว ในการให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนที่ยากจน แต่ต้องทำให้ถูกต้อง ตามกฎหมายและข้อเท็จจริง ถ้าไม่ทำอย่าตรงไปตรงมา ก็จะถูกหลอกได้จากนายตำรวจบางคนที่ต้องการโชว์ผลงาน โดยไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่เช่นนั้น นายหรือผู้ใหญ่จะถูกหลอกได้ หรือถ้าให้สิ่งเหล่านี้เดินหน้าต่อ เราก็ต้องยอมรับว่ามีกระบวนการต่อรองในการดำเนินคดี หรือจะไม่ดำเนินคดีอาญา แต่จะต้องทำสถิติให้เขา ถือเป็นการละเมิดกฎหมาย ตำรวจชั้นผู้น้อยส่วนใหญ่ลำบากใจมาก ขณะที่มีตำรวจบางนายที่สนับสนุนเรื่องนี้ โดยเน้นการสร้างสถิติ ก็เจริญเติบโตทางราชการ”
พล.ต.ท. ปิยะ อุทาโย ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวในบ่ายวันเดียวกัน ว่า
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้รับฟังและสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว ขอยืนยันว่าการแจกโฉนดแต่ละครั้งมีกระบวนการทำงานร่วมกันที่ชัดเจน ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการภายใต้ระบบของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น อัยการคุ้มครองสิทธิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยุติธรรมจังหวัด เจ้าหน้าที่ที่ดิน สรรพากร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร และ ตำรวจ เป็นต้น ถ้าพบเป็นการกระทำผิดเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา หรือฉ้อโกงประชาชนจะมีการดำเนินคดี อย่างเฉียบขาด แต่หากลูกหนี้ เจ้าหนี้ ประสงค์ที่จะเจรจา จะผ่านกระบวนการของคณะกรรมการ ไกล่เกลี่ย จนนำโฉนดคืนให้กับลูกหนี้ โดยความยินยอมของเจ้าหนี้ และผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการไกล่เกลี่ยฯของจังหวัด จึงไม่ได้มีการสร้างภาพ โดยเป็นไปตามข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ถ้าพบว่าในพื้นที่ใดกระทำการไม่ถูกต้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด”
matemnews.com
24 มิถุนายน 2562
