จากกรณีรถบรรทุก ทำตู้คอนเทนเนอร์ หล่นทับรถยนต์ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเหตุให้มีผู้เสียหาย กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการขั้นสูงสุด ทั้งพนักงานขับรถ และผู้ประกอบการ พร้อม ตั้งจุดตรวจรถบรรทุกสินค้าทุกคัน ทุกเส้นทาง ผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนไม่ใช้ทวิสล็อก ลงโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุดทุกกรณี
วันที่ 28 มิ.ย.62 นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง กรณีอุบัติเหตุรถบรรทุกลากจูง ทะเบียน 70-5126 พระนครศรีอยุธยา และกึ่งพ่วงคันหมายเลขทะเบียน 64-2402 กทม.ของผู้ประกอบการขนส่งบริษัทเพ็ญปัญญา ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งมีนายสุบรรณ โพธิ์สน อายุ 48 เป็นพนักงานขับรถ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณถนนโรจนะในช่องกลาง ฝั่งขาเข้า ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา มีรถเก๋งออกมาจากซอยด้านข้างตัดหน้าอย่างรถทันหัน จึงได้หักหลบมาด้านซ้าย พบรถเก๋ง กฉ 5116 พระนครศรีอยุธยา 7กฆ 4312 กรุงเทพฯ และ 1กฐ 9950 กรุงเทพฯ จอดอยู่ในช่องทางด้านซ้าย จึงหักรถเบนออกทางขวา ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรทุกปุ๋ยมาบนรถถูกเหวี่ยงสะบัดอย่างรุนแรงจนทำให้สลักยึด ตู้สินค้า (twist lock)ขาด ตู้สินค้าหลุดออกจากตัวรถกระเด็นไปกระแทกกับรถคู่กรณีได้รับความเสียหายจำนวน 3 คัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.62 ช่วงตี 2
กรมการขนส่งทางบก พบว่ารถคันดังกล่าว ไม่ติดตั้ง GPS จึงลงโทษผู้ประกอบการปรับ 50,000 บาท ส่วนพนักงานขับรถถูกส่งตัวให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
นายพีระพล กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก คุมเข้มกวดขันรถบรรทุกไม่ใช้ทวิสล็อก(Twist-Lock) ยึดตู้บรรทุกสินค้าทุกคันทุกเส้นทางทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ จัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ตั้งจุดตรวจทุกจังหวัด หากเพิกเฉยไม่ล็อก ตู้บรรทุกสินค้า จะถูกลงโทษตามกฎหมายสูงสุดทันที โดยผู้ประกอบการขนส่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 71 ประกอบมาตรา 148 อุปกรณ์และส่วนควบไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนผู้ขับรถมีความผิดตามมาตรา 102 (4) ประกอบมาตรา 127 ไม่ใช้เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถตามที่กฎหมายกำหนด ปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท อีกทั้งต้องติดตั้ง GPS Tracking เพื่อการติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถด้วย