มีแต่ข่าวประเภท รายงานข่าวกล่าวว่า กลุ่มสามมิตรในพรรคพลังประชารัฐ ไม่พอใจที่ถูกเบี้ยวตำแหน่งรัฐมนตรี ก็ปรากฏว่า นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท กรรมการบริหารพรรค ออกมานั่งโต๊ะแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนที่สำนักงานพรรค พปชร. 29 มิ.ย.2562 ขู่ใครก็ไม่รู้ ไม่ออกชื่อ
“ ต้องกราบขอบพระคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างสูงที่จัดโผ ครม.เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 โดยท่านบอกกับหัวหน้าพรรคว่าจบแล้ว ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงแล้วเด็ดขาด และในโผนั้นมีชื่อผมเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายกฯ คงทราบดี และคงรู้ถึงการทำงานที่ผ่านมาของพวกผมที่ทุ่มเทตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคจนถึงวันเลือกตั้ง เพื่อหวังว่าให้เพื่อนๆ ส.ส ทุกคนของพรรคฯประสบความสำเร็จ อีกทั้งเพื่อความสำเร็จที่สำคัญสูงสุดคือการได้นายกรัฐมนตรีที่พรรคฯ และประชาชนต้องการ คือ พล.อ.ประยุทธ์ โดยพวกเราในหลายๆ ภาคส่วน ก็ทำกันจนประสบความสำเร็จ พรรคพลังประชารัฐสามารถรวบรวมคะแนนเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้ และได้ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกฯ อีก มาวันนี้ผมก็รู้สึกภูมิใจและดีใจร่วมกับพรรค เอาเป็นว่าในพรรคใครมีปัญหาอะไร ทำอะไรไม่ได้ก็มาใช้ไหว้วานผม หัวหน้าพรรค เลขาพรรค และผู้อำนวยการพรรค นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ก็ทราบดี แต่ตอนนี้มีกระแสข่าวหนาหู ว่า มีการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรี อย่างเช่นผม และนายสุชาติ ชมกลิ่น ตามข่าวอาจต้องหลุดจากโผ หรือนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อาจต้องสลับจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวานนี้ผมก็ได้บอกไปแล้วว่า ท่านนายกฯ ได้บอกท่านหัวหน้าพรรคแล้วว่าโผไม่เปลี่ยนแปลง เพราะนายกฯ เป็นชายชาติทหาร เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย แต่หากเป็นไปตามกระแสข่าวจริง ผมคงเสียใจอย่างยิ่งแทนพี่ๆ น้องๆ ที่ต้องหลุดโผ หรือถูกเปลี่ยนตำแหน่ง ส่วนผมนั้นถ้าจะถูกปรับออกก็ยินดี แต่ขอท่านนายกฯ ได้โปรดอย่าเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอื่นๆ โดยเฉพาะนายสุริยะที่ผมทำงานด้วยมานาน เป็นบุคคลที่มีคุณค่า มีความสามารถ และอยากฝากไปถึงนายกฯ หากท่านได้ร่วมงานกับนายสุริยะ ผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนร่วมงานและพี่น้องประชาชน เพราะเป็นคนเก่ง ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติมากมาย ดังนั้น หากจำเป็นต้องออกหรือท่านนายกฯ จำเป็น ผมขอออกคนเดียวก็เพียงพอ กับพรรคชาติพัฒนากับผมตอนหาเสียงเลือกตั้งก็เป็นคู่แข่งกัน จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้องอย่างยิ่งที่จะเอามาแทนตำแหน่งของผม หรือของคนอื่นตามที่เป็นข่าว ซึ่งเสมือนหนึ่งว่าพวกผม ไปรบจนได้รับชัยชนะ พอกลับบ้านถูกแม่ทัพนำศัตรูที่ผมไปต่อสู้ชนะมา เอามาตัดหัวผมทิ้ง แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นเช่นนั้นอาจจะด้วยความจำเป็นของท่านนายกฯ แต่ผมไม่เชื่อว่าท่านนายกฯ เคยรับปากพรรคชาติพัฒนาไว้ว่า จะให้เป็นรัฐมนตรี อาจจะมีกลุ่มบุคคลภายในพรรค ที่ไม่อยากให้ผมได้เป็นรัฐมนตรี ไปเสนอท่านนายกฯ และถ้าเป็นเช่นนั้นจริงผมขอกราบเท้าท่านนายกฯ ว่าผมไม่ขอรับตำแหน่งก็ได้ แต่ขอให้นายสุริยะ ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตามที่นายกฯ ได้ลั่นวาจาไว้ อีกเรื่องสำคัญที่ขอแถลงข่าวในวันนี้ เนื่องจากมีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่อยู่ภายในพรรคเดียวกัน เป็นผู้บริหารพรรคเหมือนกัน แต่คอยรังแกพวกผม ที่พวกคุณเรียกพวกเราว่ากลุ่มสามมิตร ทั้งๆ ที่พวกผมเป็นคนพรรคพลังประชารัฐ เป็นลูกน้องท่านนายกฯ เหมือนกับพวกคุณ และก็ยังคอยรับใช้พวกคุณทำงานให้พวกคุณในทุกเรื่องที่พวกคุณต้องการจนประสบความสำเร็จ ให้พวกคุณเสวยสุข แต่พวกคุณก็ยังรังแกพวกผม ไปให้ร้ายโจมตีพวกผมต่อผู้ใหญ่ ใช้สื่อโจมตี เสนอแต่เรื่องไม่ดีและเรื่องไม่จริงให้ท่านนายกฯ และผู้ใหญ่ที่น่านับถือฟัง จนพวกผมเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจของทั้งสองท่าน พวกท่านถ้ารักท่านนายกฯ หรือผู้ใหญ่ ที่น่านับถือจริง และรักพรรคจริง ขอได้โปรดหยุดการกระทำเหล่านี้ นับแต่บัดนี้ หากผมโดนรังแกจนทนไม่ได้ พวกท่านจะต้องมีข่าวระดับชาติเป็นแน่ๆ ผมเอาแน่ถ้ายังรังแกกันอีก พวกผมจะทน ไม่ไหวแล้ว พวกผมมาทำงานให้ประเทศชาติ ไม่เคยให้ร้ายคนอื่น มีแต่จะสนับสนุน ผมเตือนด้วยความหวังว่ายังมีโอกาสที่เราจะทำงานร่วมกันภายใต้เจ้านายคนเดียวกันคือ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อนำพาพรรคเดินไปข้างหน้า นำนโยบายไปรับใช้พี่น้องประชาชน ต้องกราบขอโทษท่านนายกฯ เป็นอย่างสูงด้วย ที่ลูกน้องทะเลาะเบาะแว้งกันเอง และผมก็อยากให้ท่านนายกฯ ลงมาดูแลพวกเรา ให้ความเป็นธรรมกับพวกเราที่เป็นลูกน้องท่านเหมือนกัน ผมจะไม่เสียใจแม้สักนิด หากถ้าพี่น้องของผม ได้ตำแหน่งภายในพรรคตามที่นายกฯรับปากไว้ ส่วนตัวของผมไม่เป็นไร ผมเป็นผู้เสียสละเอง หากผมไม่ได้เป็น ผมขอฝากนโยบายของพรรคที่ไปหาเสียงไว้กับพี่น้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องเกษตรกร คือนโยบายเรื่องเงินบาทแรกของประเทศ เพราะผมเชื่อว่านายกฯมีเมตตา รักที่จะดูแลพี่น้องเกษตรกร มีเจ้าของสื่อที่เป็นบุคคลากรที่อยู่ในพรรคพยายามให้ร้าย รังแกพวกตนมาตลอด และหากท่านยังไม่หยุดผมจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกือบทุกวัน เพื่อนำข้อมูลความเป็นจริงมาสู่พี่น้องประชาชนและสื่อทั้งประเทศได้รู้ ทั้งที่เรามีผู้บริหารเป็นเจ้าของสื่อ แต่กลับมาทำร้ายคนในพรรคเดียวกัน เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ภายในพรรคต้องมาบริหารบุคลากรกันใหม่ พวกเราที่ทำงานกันถูกกลุ่มบุคคลที่กดหัวพวกเราได้ เขายังกดเราต่อไปอีกหรือ ต้องมาบริหารจัดการกันเองภายในพรรค และในกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ที่เป็นกลุ่มผู้บริหารพรรค ยังมีโอกาสกลับตัว ถ้ายังไม่กลับผมจะทำให้ดู ทำกันเกินไปแล้ว ผมเป็นลูกผู้ชายไม่ทำร้ายใครข้างหลัง ผมไม่ใส่กระโปรงไปแอบให้ร้ายใครแน่นอน ผู้ใหญ่ในพรรคอาจจะทราบแต่ไม่กล้าพูด แต่ครั้งนี้พวกผมทนไม่ไหวแล้ว และหากนายกฯ ให้โอกาสเข้าไปชี้แจง พวกเราก็จะชี้แจงให้ทราบถึงความเป็นมาเป็นไปในพรรค และอยากได้รับโอกาสและความเป็นธรรมจากท่านนายกฯ เพื่อให้การทำงานของพรรคประสบความสำเร็จในวันข้างหน้า และยังเชื่อมั่นว่านายกฯคงไม่ถอดใจที่จะทิ้งพวกเราไปW
นักข่าวถาม ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทบทวน สามมิตรจะไม่ขนสมาชิกออกไปใช่หรือไม่ นายอนุชา ตอบว่า
“คงไม่ถึงขนาดนั้น การเมืองก็เดินไป แต่อาจจะพบความลำบากบ้าง และถ้าเป็นขนาดนั้นก็คิดว่าในพรรคก็คงต้องมาบริหารจัดการกันใหม่เรื่องบุคคลากร ว่าจริงๆ แล้วการทำงานเราถูกกลุ่มบุคคลกดหัวพวกเราได้ และเขายังสามารถกดหัวเราต่อไปอีกหรือ ผมเชื่อว่ามีกลุ่มบุคคลพยายามไม่หวังดี ถ้าเป็นไปได้อยากจะขอโอกาสเข้าไปชี้แจงกับนายกฯ เพราะนายกฯ อาจจะรับฟังข้อมูลจากกลุ่มที่ไม่หวังดีกับพวกผมมาเป็นเวลานาน ผมคิดว่านายกฯ เป็นคนมีความเมตตาและความยุติธรรม ท่านกำลังจะมาเป็นผู้นำประเทศควรสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการจัดโผ ครม.”
matemnews.com
29 มิถุนายน 25862