นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามิตรใน พปชร.ไปที่ทำการพรรคเมือ 10.30 น.วันที่ 1 ก.ค.2562 บอกนักข่าวว่าพาหารือพูดคุยกับผู้บริหาร พปชร.แต่ ไม่มีใครมาเลย มีแต่ฝ่ายสามมิตรพร้อมส.ส.ประชุมกันเอง กระทั่ง 13.30 น.ก็นั่งโตณะร่วมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนที่มจำนวนมาก
นายอนุชา นาคาศัย เป็นผู้แถลงว่า
“ตามที่สมาชิกพรรคได้ร่วมยินดีกับบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในโผคณะรัฐมนตรี วันที่ 11 มิ.ย.2562 ในกลุ่มสามิตร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ผม จะได้นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คนทั้งประเทศได้ทราบข่าว รวมถึงสมาชิกและ ส.ส.ก็ต่างแสดงความยินดี กลุ่มสามิตรก็ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนให้มีตำแหน่ง แต่มาในวันนี้ ทุกคนกลับรู้สึกผิดหวัง เมื่อทราบว่ามีการสลับชื่อโผ ครม. แต่เรายังเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยังรักษาคำพูด โดยไม่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดๆ ตามที่แจ้งไว้เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. สามิตรขอแสดงจุดยืน 5 ข้อ ดังนี้
1.นายสุริยะ มีความเหมาะสมในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กว่ากระทรวงอุตสาหกรรม เพราะหากอยู่ในกระทรวงสากรรม ก็อาจจะถูกวิจารณ์ได้ เนื่องจากตระกูลของนายสุริยะ มีธุรกิจขนาดใหญ่ด้านอุตสาหกรรม อีกทั้ง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ก็ได้เสนอชื่อนายสุริยะ ให้เป็น รมว.พลังงานต่อนายกฯไปแล้ว ซึ่ง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ก็เห็นชอบ ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังไม่ปรากฏว่า มีคนอื่นได้พรรค ต้องการหรือเรียกร้องตำแหน่งดังกล่าว และไม่พบว่าหากนายสุริยะ ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้ว จะมีปัญหาแต่อย่างใด การสลับตำแหน่ง ย่อมจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาโดยไม่จำเป็น
ในส่วนของผม ก็ขอให้ยึดตามโผ ครม.ที่มีชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เชื่อว่าหากเป็นไปตามเดิม ก็จะไม่มีปัญหาความยุ่งยากอย่างที่เป็นอยู่ แม้การแต่งตั้ง ครม.จะเป็นอำนาจโดยตรงของนายกฯ แต่เมื่อพรรค พปชร.เสนอบุคคลที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งต่างๆ ไปให้พิจารณาแล้ว หากไม่มีปัญหาอะไร ก็สมควรให้เป็นไปตามที่เสนอ เช่นเดียวกับการปฎิบัติกับพรรคร่วมรัฐบาล
2.หากเป็นไปตามข้อหนึ่ง เราเชื่อมั่นว่านายสมศักดิ์ นายสุริยะ และผม จะสามารถทำงานร่วมกับนายกฯและรัฐบาล เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลได้ โดยให้ออกมาเป็นรูปธรรม อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วอย่างแน่นอน
3.กลุ่มเราเชื่อมั่นว่า นอกจากงานด้านบริหารแล้ว ทั้ง 3 คนในกลุ่มสามมิตร ที่มีชื่อเป็นรัฐมนตรี จะสามารถช่วยงานนายกฯขับเคลื่อนงานในสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.หากมีการเปลี่ยนแปลงและสลับตำแหน่งจากเดิม ทางกลุ่มมีความเห็นตรงกันว่า รัฐบาลจะขาดบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ เข้าไปทำหน้าที่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จะทำให้การบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการยอมรับและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพรรคจากแน่นอน
5.หลังจากมีประกาศ รายชื่อ.ครม.อย่างเป็นทางการแล้ว หากไม่ตรงกับความเห็นของกลุ่มตามข้อหนึ่ง ทางกลุ่มจะหารือเพื่อแสดงจุดยืนอีกครั้ง”
matemnews.com
1 กรกฎาคม 2562
