พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบัฐบาล โดยกล่าวหลายประเด็น
การรุมตี จ่านิว นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ที่ขณะนี้รัฐบาลตกเป็นจำเลย ว่า
“ได้กำชับไปแล้ว โดยเฉพาะในที่ประชุม คสช.ได้สั่งการกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปแล้ว ให้ติดตามดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด เช่นเดียวกับคดีอื่นๆ และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเยี่ยมเยียน ดูแลความต้องการของนายสิรวิชญ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาพยาบาลต่างๆ ต้องดูแลให้ดีที่สุด ผมไม่ใช่ศัตรูของเขา ตอนนี้มีผลกระทบมากในสังคมของเราอยู่แล้ว การทำร้ายซึ่งกันและกันมันไม่ควรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม จ่านิว ก็เป็นจ่า ยังไม่เป็นหมวดเสียที ผมก็ยินดีกับเขาด้วยที่จะไปเรียนต่างประเทศ วันนี้ก็ให้คนไปเยี่ยมแล้ว และดูว่าเขาต้องการอะไรหรือไม่ คงไม่มีอะไรแล้วมั๊ง”
ปัญหาในพรรค พปชร. พล.อ.ประยุทธ์ แถลงว่า
“ทุกอย่างยังอยู่ในกรอบการดำเนินการตามกฎหมาย ในทั้ง 90 วัน และ 150 วัน อีกทั้งที่ผ่านมามีพระราชพิธีสำคัญ วันนี้ยังไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากเวลาเดิมที่ตั้งไว้ในเดือนก.ค. ดังนั้นขออย่าบิดเบือน และขอให้เข้าใจว่าเราต้องแก้ปัญหาให้ได้ ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ผมมองเป็นธรรมดาเหมือนกับทุกพรรคที่มาปัญหาความขัดแย้ง เพียงแต่แสดงออกกันอย่างไร แต่วันนี้มีความก้าวหน้าและเรียบร้อยแล้ว ตามที่พรรคออกมาแถลง ขอขอบคุณทุกคนและอย่าโกรธ แค้นเคืองอะไรกันเลย อีกทั้งประชาชนต้องไม่ไปคล้อยตามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมเชื่อมั่นว่าประชาชน และนักการเมือง ทุกคนเข้าใจ เราพยายามทำทุกอย่างให้สงบ เรียบร้อยไปได้ ถือเป็นการปฏิรูปทุกอย่างที่เป็นไปตามกลไกและกติกา ธรรมดาที่รู้สึกไม่สบายอยู่บ้างแต่เมื่อมันเรียบร้อย ผมก็สบายใจ ตอนนี้ขั้นตอนต่างๆไม่ได้ติดชะงักตรงไหน ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ มีทั้งการตรวจสอบเอกสารและหน่วยงานภายนอก เมื่อตรวจสอบแล้วก็ต้องรับรอง และให้เวลาในการแก้ปัญหาของตนเองตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ว่าจะเรื่องหุ้น หรือเรื่องอะไรต่างๆ ให้เวลาดำเนินการ เมื่อแล้วเสร็จก็จะส่งถวายขึ้นไป ก่อนจะถวายสัตย์ปฏิญาณต่อไปผมคิดว่าไม่กี่วันข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ อย่างที่ผมบอกว่าเป็นพรรคใหม่ แม้ว่าจะมีคนเก่าๆอยู่หลายคน แต่การที่มีคนจากหลายพรรคมารวมกัน เพื่อขับเคลื่อนไปด้วยกันก็อาจะมีปัญหาและความขัดแย้งภายในอยู่บ้าง และสื่อก็ให้ความสนใจ จึงกลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ แต่วันนี้ขอให้จบได้แล้ว ในฐานะที่ผมเป็นผู้ถูกเสนอเป็นนายกฯในนามของพรรคก็ได้ให้แนวทางไปว่า ควรแก้ไขปัญหากฎระเบียบภายในพรรคให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดิมขึ้นมาอีกวันนี้อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่าน จึงเป็นธรรมดาที่จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เมื่อเข้าใจกันก็จบ ผมก็ลืมไปแล้ว และหวังให้พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคหนึ่งที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่นทำงานเพื่อชาติและประชาชนต่อไปในอนาคต โดยจะเดินหน้าไปด้วยกลไลการเมือง รัฐธรรมนูญ กฎหมาย และระเบียบของพรรคให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต จึงหวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือ”
นักข่าวถามว่า เจอปัญหาจากนักการเมืองในขณะนี้ ทำให้ปวดหัวและเครียดหรือไม่ ตอบว่า
“ทุกอย่างก็ต้องปวดหัว เพราะทำงาน และใช้หัวสมองในการบริหาร รวมทั้งใช้ความเข้าใจและหาความร่วมมือ สร้างความเข้าใจกับประชาชน ให้ประชาชนเชื่อมั่นด้วย วันนี้จึงขอบคุณที่ทุกคนสนับสนุนผมมากพอสมควร จึงขอให้เชื่อมั่นว่าด้วยกลไลประชาธิปไตย ผมจะทำงานให้สำเร็จ บริหารราชการด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัย และสร้างหลักคิดใหม่ให้กับประชาชนว่า ทำอย่างไรให้บ้านเมืองเราดีขึ้นกว่าเดิม เพราะผมคงไม่ได้อยู่กับทุกคนตลอดไป วันหน้ามีคนรุ่นใหม่เข้ามาทดแทน แต่เราต้องเตรียมคนรุ่นใหม่ให้พร้อมในการรับสถานการณ์นั้นด้วย รวมทั้งการปฏิรูปและปลดล็อคเพื่อแก้ปัญหา วันหน้าหากจะแก้ไขอะไรไปแก้ในกระบวนการ หากเห็นว่าไม่ดีก็ไปแก้ในสภา อย่ามาย้อนกลับไปมาอย่างที่พูดกันวันนี้ ผมหวังดีกับทุกคน ยืนยันว่าครม.เสร็จแล้ว จบแล้ว ในส่วนของผม และมั่นใจจะไม่ส่งผลเรื่องเสียงปริ่มน้ำ ไม่มีแล้ว ก็ต้องดูว่าวันหน้าจะเป็นอย่างไรกันต่อไป กลุ่มต่างๆควรจะมีหรือไม่ ผมมองว่าควรจะเป็นมติของพรรค ส่วนจะควบคุมทุกคนในพรรคได้หรือไม่นั้น คงไม่ต้องควบคุม แต่ทำความเข้าใจกัน และพูดคุยกัน ก็คงรู้เรื่อง เพราะเป็นคนไทยด้วยกันทั้งหมด”
นักข่าวย้ำ ตำแหน่งต่างๆเป็นไปตามที่แต่ละพรรคเสนอมาในตอนแรกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบ
“ เป็นเรื่องของผม เป็นเรื่องของนายกฯ ในการปรับให้เหมาะสม ทุกคนยอมรับแล้วก็จบ ส่วนโอกาสที่ผมจะเข้าไปมีตำแหน่งบริหารพรรค วันนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นก็ต้องดูว่าควรจะมีหรือไม่มี ยังไม่รู้”
นักข่าวถาม ตัวท่านเกรงหรือไม่ว่าจะเกิดเช่นเดิมขึ้นอีกเมื่อมีการปรับครม. พล.อ.ประยุทธ์ ตอบ
“ เกรง … แต่หากจะเกิดขึ้นก็ต้องแก้กันต่อไป เพราะปัญหามีไว้ให้แก้ ผมต้องยึดหลักการมีธรรมาภิบาล ทุกคนมีประสบการณ์การทำงานทางการเมืองมาแล้ว จึงหวังว่าจะให้เกิดความเชื่อมั่น และแก้ปัญหาความไม่ไว้วางใจได้ ถือเป็นโอกาสที่ผมให้กับทุกคน หากไม่ให้โอกาสทุกคนก็มาไม่ได้ เพราะทุกคนได้คะแนนเสียงจากประชาชนในการเลือกเข้ามา ดังนั้นต้องขอโอกาสผมในการเป็นนายกฯ ที่ต้องจัดสรรให้เหมาะสม ถือเป็นการทำหน้าที่ของผม
นักข่าวถาม ตัวท่าน มองว่านักการเมืองเขี้ยวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบ
“ไม่หรอก”
เปลี่ยนประเด็รถามตัวท่านจะควบตำแหน่งรมว.กลาโหม หรือไม่ ตอบว่า
“ขอให้รอก่อน ใจเย็นๆ”
ถามอีกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะอยู่ในรัฐบาลชุดใหม่ หรือไม่ ตอบว่า ใจเย็นๆ
พล.อ.ประยุทธ์ แถลงประเด็นสารจากนายกรัฐมนตรีทีแจกวานนี้ มีท่อนหนึ่งเขียน ไม่อยากให้การเมืองกลับไปเป็นปัญหาแบบเดิม จนต้องแก้ปัญหาแบบเดิมที่ทุกคนไม่ต้องการ แล้วมีการตีความว่าจะทำรัฐประหารอีกหรือ
“ผมไม่อยากให้ตีความลึกซึ้งขนาดนั้น เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าปัญหาของเราคืออะไร เมื่อมีปัญหาการเมืองเกิดขึ้น ก็มีการเดินขบวนและขยายความรุนแรงมากขึ้น และบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น ทุกคนไม่มีความสุข และเดือดร้อนไปด้วย โดยผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีกเพียงแค่นั้น การรัฐประหารหรือการปฏิวัติซ้อนไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นมาอีก แม้กระทั่งผมที่เคยทำมา ในเวลานั้นก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เราต้องกลับมาแก้ปัญหาให้ถูกวิธี โดย 5 ปีที่ผ่านมาได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน บางอย่างก็ดี แต่บางอย่างยังไม่เรียบร้อย เราจึงหยุดแค่นี้ไม่ได้ เพราะทำมาจนถึงวันนี้แล้ว ต้องร่วมมือกัน ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน เอกชน และภาคประชาสังคม ต้องช่วยกัน ต้องปฏิรูปทุกอย่าง”
matemnews.com
2 กรกฎาคม 2562