Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ไทม์ไลน์ดราม่ารายการเกาหลีจับ “หอยมือเสือ”ในไทยทำอาหาร

ไทม์ไลน์ดราม่ารายการเกาหลีจับ “หอยมือเสือ”ในไทยทำอาหาร

837
0
SHARE

จากกรณีรายการเกาหลี “Law of the Jungle” ลักลอบจับ “หอยมือเสือ” ของไทยมาทำอาหาร โดนวิจารณ์สนั่นจนนำไปสู่กระบวนการทางกฎหมาย สั่งห้ามเข้ามาถ่ายทำอีก และล่าสุดทางทีมงานก็ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษอย่างเป็นทางการแล้วนั้น

(อ่านข่าวก่อนหน้า แจ้งจับรายการ Law of The Jungle กิน “หอยมือเสือ” สัตว์คุ้มครอง)

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 7 ก.ค.62 ว่า นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครทูตประจำกรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา ได้โพต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Fuangrabil Narisroj โดยระบุว่า มีผู้สอบถามรายละเอียดเรื่องรายการสารคดีของเกาหลีไปจับหอยมือเสือนั้น ขอสรุปเรื่องราวและการดำเนินการ ตามที่ผมได้รับการชี้แจงจากทางกรมการท่องเที่ยวเพื่อทราบคร่าวๆ ดังนี้

1. รายการ The Law of Jungle เป็นการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้อนุมัติให้ บริษัท เดอะ ซิกซ์ เอลลิเม้นท์ จำกัด ผู้ประสานงานการถ่ายทำของบริษัท SCB Broadcasting center สาธารณรัฐเกาหลี เข้าดำเนินการ ถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ในบริเวณหาดเจ้าไหม เกาะแหวน และเกาะมุก ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ในวันที่ 29 มีนาคม 2562 และ 1-3 เมษายน 2562

2. ซึ่ง จนท.อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้ชี้แจงระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้บริษัทดังกล่าวทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด หากมีการฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมมอบหมายให้หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ จม.3 (เกาะกระดาน) เป็นผู้แทนกำกับดูแลการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ อย่างเคร่งครัด

4. ซึ่งข้อเท็จจริงในวันที่ 2 เมษายน 2562 บริษัท SCB Broadcasting center สาธารณรัฐเกาหลี เข้าดำเนินการถ่ายทำ บริเวณอ่าวสบาย เกาะมุก โดยมีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ จม.3 (เกาะกระดาน) เป็นผู้แทนกำกับดูแล แต่เนื่องจากมีคลื่นลมแรงมาก ไม่สามารถถ่ายทำได้ บริษัท SCB Broadcasting center สาธารณรัฐเกาหลี ได้ประสานหัวหน้า อช.หาดเจ้าไหม ให้จัดเรือเพื่อจะขอเคลื่อนย้ายทีมงาน นักแสดง กลับไปยังที่พัก

5. ในวันนั้นทางคณะแจ้งกับ จนท.กรมอุทยานที่ควบคุมว่า ขอยุติการถ่ายทำ แต่จริงๆ ได้แอบขึ้นเรือไปนอกพื้นที่ที่อนุญาตให้ถ่ายทำ และไปดำน้ำจับหอยมือเสือโดยพลการ

6. อช.หาดเจ้าไหม จึงได้แจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันตัง ให้ดำเนินคดีในความผิดแห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ด้วยแล้ว ตามบันทึกประจำวัน ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 เวลา 20.50 น. เล่มที่ 0013/2562 เลขที่ 0007

7. ในส่วนของ Film Board ได้ทำการ blacklist กับ producer รายการดังกล่าวไม่ให้เข้ามาถ่ายทำในไทยอีก และทำทัณฑ์บน บ.ผู้ประสานงาน อีกทางหนึ่งด้วยแล้ว

8. ทาง producer จงใจฝ่าฝืนกฎ ทาง Film Board อนุญาตให้ถ่ายทำสารคดีในส่วนของโลเคชั่น แต่เราไม่ได้อนุญาตให้เข้ามาทำลายทรัพยากรธรรมชาติของเราเด็ดขาด ! ตอนอนุญาตทางเกาหลีก็มีหนังสือยืนยันว่าจะเคารพกฎ แต่สุดท้ายก็ฝ่าฝืน จึงต้องลงโทษขั้นสูงสุดเท่าที่ทำได้คือ blacklist และดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

9. ส่วนที่มีผู้สงสัยว่าทำไมแจ้งความดำเนินคดีช้า ก็ได้รับการอธิบายจากจนท.ว่า ตอนที่คณะอยู่ในไทย ไม่มีใครทราบในส่วนของการที่แอบไปบันทึกเทปนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต (ตอนจับหอยมือเสือ) จนกระทั่งมีเทปรายการออกที่เกาหลี จึงทราบ และได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดี.

ที่มา นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล