ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก นาที 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ฐานจงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จต่อ ป.ป.ช. ส่อหลุดตำแหน่งส.ส ห้ามเล่นการเมืองตลอดชีวิต เหตุ รธน.60 กำหนดลักษณะต้องห้าม เคยถูกพิพากษาถึงที่สุดจากการทำผิดกฎหมายป.ป.ช. เจ้าตัว ความดันขึ้นอีกรอบ แต่ใจยังไหว ระบุหาก “นาที”พ้นจากส.ส. “พ.อ.เศรษฐพงศ์” เลื่อนขึ้นแทน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณากรณี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฟ้อง นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย จงใจแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ หลังพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เมื่อปี 2556 ไม่แจ้งทรัพย์สินเป็นบ้าน มูลค่า 2 ล้านบาท และหนี้สินของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ สามี จำนวน 93 ล้านบาทเศษ โดยนางนาที ให้การรับสารภาพ
ทำให้ศาลอ่านคำพิพากษา โดยไม่มีการไต่สวน ซึ่งศาลเห็นว่า จงใจแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ ใน 2 ประเด็น คือกรณีเข้ารับตำแหน่งส.ส. เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 แต่คดีขาดอายุความและ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ในปี 2557 ไม่ชี้แจงทรัพย์สิน 2 รายการคือที่ดิน 2 แปลงมูลค่า 2 ล้านบาทและหนี้สินของสามี มูลค่า 93 ล้านบาทศาล พิพากษาจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพและไม่เคยต้องคดีมาก่อนโทษจำคุกลดลงกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 เดือนปรับ 4,000 บาท โทษจำคุก ให้รอลงอาญา 1 ปี ส่วนคำขอให้ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีนั้นให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมปี 2556
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโทษตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีนั้นถือว่าพ้นแล้วนับจาก วันที่ 9 ธันวาคมปี 2556 แต่ที่จะเป็นปัญหาสำหรับนางนาที คือตามรัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา101 (6)กำหนดลักษณะสมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลงเมื่อมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 ซึ่งมาตรา98 (9) บัญญัติว่า เคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จึงต้องติดตามว่าตำแหน่งส.ส. บัญชีรายชื่อของนางนาทีจะพ้นไปโดยสภาพหรือต้องมีใครยื่นเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของนางนาที อย่างไรก็ตามการที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุกดังกล่าวทำให้นางนาทีอาจไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ได้อีกเนื่องจากถือว่าเคยต้องคำพิพากษาจำคุก ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ 60
สำหรับบรรยากาศในการฟังคำพิพากษาวันนี้นางนาทีเดินทาง มาด้วยตัวเองพร้อมกับสามีและบุตร โดยนางนาทีมีอาการป่วยตั้งแต่เมื่อคืนนี้ครอบครัวต้องนำส่งโรงพยาบาลวิภาวดีก่อนที่จะเข้าแอดมิดที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯและเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้านี้เพื่อเดินทางมาฟังคำพิพากษา และในระหว่างรอฟังคำพิพากษาก็มีอาการความดันกำเริบ แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไหวอยู่แต่ความดันขึ้นเล็กน้อยทำให้รู้สึกไม่ค่อยดี ซึ่ง ทันทีที่ออกจากห้องพิจารณาคดีก็รับประทานยาลดความดันแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากจะต้องมีการเลื่อนลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาแทนนางนาทีนั้น ผู้จะได้รับการเลื่อนลำดับขึ้นมาก็คือพ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ ผู้สมัครส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับที่ 13