วันที่ 22 ก.ค.62 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้ความสำคัญกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการคลี่คลายสถานการณ์ภาวะฝนทิ้งช่วงที่กำลังส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ล่าสุด ได้สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กองทัพภาคที่ 1,2 และ3 ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนทุกภาคส่วนในการแก้ไขวิกฤติฝนทิ้งช่วงอย่างเต็มที่และเร่งด่วน เน้นการช่วยเหลือในลักษณะแบบรวมการในพื้นที่วิกฤติ ด้วยการระดมศักยภาพของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเครื่องมือและข้อมูล เพื่อเร่งจัดหาแหล่งน้ำและส่งน้ำจากแหล่งน้ำไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่เดือดร้อน ทั้งด้านอุปโภค บริโภค และพื้นที่ทางการเกษตร
ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้สั่งการให้ มณฑลทหารบก เป็นหน่วยหลักในการบูรณาการเครื่องมือและแผนการปฏิบัติของหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ประสบภัยแล้ง เพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือแบบรวมการตามลำดับความเร่งด่วนอย่างเต็มความสามารถ เช่น การระดมรถบรรทุกน้ำของหน่วยพร้อมกำลังพลและเครื่องมือเข้าไปแจกจ่ายน้ำในพื้นที่วิกฤติ พื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร ที่ส่วนราชการอื่นเข้าให้การช่วยเหลือได้ยาก ซึ่งขณะนี้ มณฑลทหารบกได้มีการสำรวจพื้นที่วิกฤติและจัดลำดับความเร่งด่วนของพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลือไว้แล้ว โดยในภาคเหนือ ได้แก่ พิจิตร กำแพงเพชร พะเยา สุโขทัย ลำปาง ส่วนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ มหาสารคาม เลย บุรีรัมย์ สุรินทร์ ยโสธร ศรีสะเกษ ขอนแก่น นครราชสีมา เป็นต้น
นอกจากนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ยังได้จัดตั้ง “ศูนย์ติดตามสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง” เป็นการเฉพาะ ตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อติดตามสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงในขณะนี้ และเป็นส่วนประสานการปฏิบัติกับทุกส่วนราชการในการนำนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและกระทรวงหลาโหม มาสู่การปฏิบัติให้เกิดผลโดยทันทีและตรงกับความเดือดร้อนของประชาชน
สำหรับการประสานงานในระดับพื้นที่นั้น กองทัพบกได้จัดเตรียมรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร จำนวน 279 คัน ที่ประจำอยู่ในหน่วยทหารของกองทัพบกทั่วประเทศ พร้อมเข้าให้การสนับสนุนผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อร่วมปฏิบัติกับรถน้ำจากภาคส่วนต่างๆ ในการออกแจกจ่ายน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้งเร่งด่วนตามแผนงานของทางจังหวัดอีกด้วย