22 ก.ค. 62 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พานางหวาน (นามสมมติ) มารดา น.ส.ขวัญ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี และตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน ไปที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.นิพนธ์ พาณิชเจริญ รอง ผบก.จว.ฉะชิงเทรา ให้เร่งตรวจสอบดำเนินคดีเพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกสาว หลังถูกแฟนหนุ่ม วัย 21 ปี ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ทารกในครรภ์เสียชีวิต และขณะนี้ลูกสาวอาการยังโคม่า
นางหวาน แม่เด็ก เผยว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 62 ตนได้รับโทรศัพท์จากแฟนลูกสาวว่า ลูกลื่นล้มในห้องน้ำ เข้ารักษตัวอยู่ที่ รพ.พุทธโสธร ตนจึงเดินไปเยี่ยมลูกในตอนเช้าวันที่ 17 ก.ค. 62 สอบถามแฟนหนุ่มของลูก อ้างว่า คืนวันที่ 15 ก.ค. 62 ลูกสาวได้ลื่นล้มในห้องน้ำแต่ไม่ได้พามาโรงพยาบาลจากนั้นก็เข้านอนกันตามปกติจนรุ่งเช้าของวันที่ 16 ก.ค. เห็นลูกสาวนอนไม่ขยับอยู่ท่าเดิมจึงคิดว่าลูกสาวแกล้งก็เลยเอาน้ำมาหยอดใส่ปากลูกสาวและเห็นว่าลูกสาวมีอาการเกร็งไปทั้งตัวจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร แต่สภาพร่างกายฟกช้ำตามตัวของลูกสาว รวมถึงอาการเลือดคั่งในสมอง ไม่รู้สึกตัว และทารกในครรภ์อายุ 7 เดือน ก็เสียชีวิต จึงไม่เชื่อว่าลูกลื่นล้ม แต่ถูกทำร้าย
นางหวาน บอกอีกว่า ลูกสาวเรียนจบชั้น ม.3 จากนั้นก็เรียนต่อ กศน. และทำงานไปด้วย ต่อมาได้มารู้จักกับแฟนหนุ่มคนดังกล่าว และตัดสินใจมาอยู่กินด้วยกันเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2561 โดยช่วยทางบ้านแฟนค้าขาย ซึ่งในระหว่างที่อยู่กินกันนั้นลูกสาวจะติดต่อกับพี่สะใภ้อยู่ตลอดและมาเที่ยวบ้านยายเป็นบางครั้งแต่ด้วยความที่ลูกสาวเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดตนจึงไม่เคยทราบเลยว่าลูกถูกทำร้ายมาก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่พี่สาวของแฟนหนุ่มลูกสาวให้ข้อมูลว่าทั้งสองคนมักจะทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ
ส่วนอาการของลูก เบื้องต้น แพทย์ ระบุว่า ม่านตาไม่มีการตอบสนองต่อแสง สมองถูกกระแทกอย่างหนักจนสมองย้ายมาอยู่อีกข้างหนึ่ง จากการเอ็กซเรย์สมองพบว่ามีรอยช้ำหลายชั้นช้ำไปจนถึงสมองด้านในและปัจจุบันนี้ลูกก็ยังไม่ฟื้นไม่รู้สึกตัว อยู่ได้เพราะเครื่อง ช่วยหายใจ แต่ตนก็ยังหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ให้ลูกฟื้นคืนมา
ทั้งนี้ ตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับลูกยืนยันว่าจะเอาเรื่องอีกฝ่ายให้ถึงที่สุด อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูก
ด้าน พ.ต.อ.นิพนธ์ พาณิชเจริญ รอง ผบก.จว.ฉะชิงเทรา เปิดเผยว่า ตำรวจได้เรียกแฟนหนุ่มของหญิงอายุ 18 ปี มาสอบปากคำตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม โดยแฟนหนุ่มสารภาพว่า ทะเลาะกันจริง อ้างว่า ฝ่ายหญิงใช้มือจิกตนนานเกินไป ด้วยความโมโหจึงต่อยเข้าที่ใบหน้า และศีรษะ เบื้องต้น ได้ดำเนินคดีใน ข้อหาเสพยาเสพติด และควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันนั้น รวมถึงแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม