วันที่ 26 ก.ค.62 นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า จากกรณีโซเชียลได้มีการพูดถึง “ซอสพริกศรีราชา” ถูกเวียดนามขโมยชื่อจดสิทธิบัตรในนาม SRIRACHA HOT Chili Sauce จนเกิดการทวงถามว่าเจ้าของแบรนด์ไทยทำอะไรอยู่
ต่อมามีชายที่ระบุว่าเป็นเจ้าของแบรนด์อัดคลิปยืนยันว่าต่อสู้ยื่นจดสิทธิบัตรมา 7 ปี แต่ไม่เคยได้รับการเหลียวแลนั้น
ล่าสุด นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยว่า ตนได้มอบหมายให้กองงานที่เกี่ยวข้องตอบและชี้แจงผ่านเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญาไปบ้างแล้วว่าใครเป็นเจ้าของสิทธิ์ชื่อ “ซอสพริกศรีราชา” ซึ่งอธิบายว่า คำว่าศรีราชา เป็นชื่อในอำเภอหนึ่งของจังหวัดชลบุรีและถือเป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ “ไม่สามารถจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อถือสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวได้” แต่ผู้ประกอบการสามารถใช้คำว่า “ซอสพริกศรีราชา” บรรยายสินค้าโดยจะต้องมีโลโก้หรือเครื่องหมายการค้าของตนกำกับด้วยเสมอ
ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีซอสพริกศรีราชาของบริษัท ไทยเพรส จำกัด ตราศรีราชาพาณิชย์ ในสหรัฐอเมริกามีตราไก่ของบริษัท Huy Fong Foods ของเวียดนาม โดยแต่ละรายจะมีสูตร มีกรรมวิธีผลิตแตกต่างกันของแต่ละบริษัท ส่วนแนวปฏิบัติในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้น สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐ (USPTO) มีแนวปฏิบัติเดียวกับไทย คือ ไม่รับจดเครื่องหมายการค้าคำว่า “ซอสพริกศรีราชา” ดังนั้น ผู้ประกอบการใด ๆ ก็สามารถใช้คำว่า “ซอสพริกศรีราชา” บรรยายสินค้าได้ เช่น เวียดนาม ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “TUONG OT SRIRACHA” พร้อมโลโก้รูปไก่ ซึ่ง USPTO รับจดทะเบียนในภาพรวมของเครื่องหมายการค้า แต่ไม่รับจดและไม่ให้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในคำว่า “TUONG OT SRIRACHA” (แปลว่า SRIRACHA CHILI SAUCE) ผู้อื่นยังสามารถใช้คำว่า “ซอสศรีราชาได้”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันซอสพริกศรีราชายังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในประเทศไทย หากมีกลุ่มผู้ผลิตซอสพริกศรีราชา ซึ่งใช้วัตถุดิบในการผลิตซอส เช่น พริก อ.ศรีราชา และสามารถบอกได้ว่า พริกที่ปลูกมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ หรือมีลักษณะพิเศษต่างจากพริกแหล่งอื่นสามารถขึ้นทะเบียน ซอสพริกศรีราชาเป็น GI หากได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว ซอสพริกที่ไม่เข้าเกณฑ์และกรรมวิธีการทำซอสพริกศรีราชาจะไม่สามารถใช้ชื่อนี้ได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ ดังนั้น ตอนนี้ ผู้ประกอบการใด ๆ ก็สามารถใช้คำว่าซอสพริกศรีราชาบรรยายสินค้าได้ แต่ต้องมีโลโก้หรือเครื่องหมายการค้าของตนเองกำกับด้วยเสมอ
แต่ถ้าวันหนึ่งผู้ผลิตพิสูจน์ได้ว่า พริกที่ปลูกมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ หรือมีลักษณะพิเศษต่างจากพริกแหล่งอื่นและได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยคำว่า “ซอสพริกศรีราชา” ก็จะใช้ได้เฉพาะบริษัทที่ยื่นขอขึ้นทะเบียน GI เพียงผู้เดียว
ข้อมูลภาพจาก เฟซบุ๊ก Nisit Buaphuan