นายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถูกเบิกตัวจากเรือนจำมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อตอนเช้าวันที่ 13 ก.ย.2560 ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ สอบคำให้การจำเลย 2 คดี วางระเบิดใน รงพ.พระมงกุฎเกล้าฯ
1.ความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทำให้เกิดระเบิด ทำให้เสียทรัพย์ พกพาอาวุธระเบิดไปในที่สาธารณะ
2.ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ร.บ.สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ และข้อหาอื่น ๆ
อัยการโจทก์บรรยายฟ้อง เมื่อระหว่างวันที่ 21- 22 พ.ค.60 จำเลยได้ประกอบระเบิด แสวงเครื่องชนิดจุดปะทุด้วยไฟฟ้า เป็นระเบิดแรงต่ำชนิดดินดำ ประกอบไว้ในท่อพลาสติกพีวีซี สีฟ้า หรือเรียกว่า” ไปป์บอมบ์ “โดยมีตะปูเข็มเป็นสะเก็ดระเบิด ใส่ไว้ในแจกันดอกไม้พลาสติก 1 ลูก ซึ่งเมื่อเกิดระเบิด จะทำอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บ เสียชีวิต และทำลายทรัพย์สินได้ในรัศมี 5–10 เมตร จากนั้นจำเลยได้นำแจกันซึ่งใส่ระเบิดแสวงเครื่องดังกล่าวเดินทางโดยรถเมล์จาก ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ไปตามถ.จรัญสนิทวงศ์ ไปที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ ได้นำแจกันดอกไม้ที่ใส่วัตถุระเบิดไปติดไว้ที่บนผนังห้องวงษ์สุวรรณ แล้วเปิดสวิชต์ ทำให้วงจรระเบิดทำงาน เป็นผลให้ พ.ท.กฤษฎา อินทรณเดช พ.อ.หญิงพูนศรี บุญปาลิต และผู้เสียหายอื่นทั้งทหารและพลเรือนรวม 21 คน บาดเจ็บ โดยมีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล เพราะแรงระเบิดและสะเก็ดระเบิดไม่ถูกอวัยวะสำคัญของผู้เสียหายทั้ง 21 คน จึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย แต่ทำให้ พ.อ.หญิงพูนศรี กับผู้เสียหายอื่นรวม 5 คน ได้รับอันตรายสาหัส และบุคคลอื่นทีเหลือได้รับอันตรายแก่กาย นอกจากนี้ยังทำให้กล้องวงจรปิด อุปกรณ์อื่นของ รพ.พระมงกุฏได้รับความเสียหายรวม 1,201,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของจำเลยย่านจ นนทบุรี พร้อมยึดอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิด ประกอบด้วย แบตเตอรี่ ชิ้นส่วนตัวเก็บปะจุไฟฟ้า ชิ้นส่วนท่อพีวีซี สวิชต์ ตะปู ขออลูมิเนียม ซึ่งเป็นส่วนประกอบของวัตถุระเบิด จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
คีดที่ 2 พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 ยื่นฟ้องนายวัฒนา ในความผิดฐานประกอบ ทำ และมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครองได้ มียุทธภัณฑ์ (วัตถุระเบิดชนิดดินดำ)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่15 มิ.ย. จำเลยได้กระทำผิดโดยประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปป์บอมบ์ 4 ลูก ขึ้นเองซึ่งเป็นระบบไฟฟ้า มีตัวตั้งเวลา และระเบิดดินดำ ในท่อพลาสติกพีวีซี.สีฟ้าโดยใส่ไว้ในกระถางสีน้ำตาลเมื่อเกิดระเบิดจะก่อให้เกิดอันตรายรัศมีฉกรรจ์ 5 -10 เมตร นอกจากนี้ยังพบดินดำ 3 กระปุก กระสุนลูกกรดขนาด .22 จำนวน 39 นัดภายในบ้านพักจำเลยย่านบางเขน กทม. เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลางดำเนินคดี
ศาลได้อ่าน และอธิบายคำฟ้องให้นายวัฒนา จำเลยฟังทั้ง 2 คดี พร้อมสอบคำให้การ นายวัฒนา แถลงให้การรับสารภาพโดยตลอดข้อกล่าวหา ไม่ต่อสู้คดี
ศาลจึงพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2869/2560 ฐานประกอบ ทำ และมีวัตถุระเบิดฯ จำคุก 4 ปี
ฐานมีเครื่องยุทธภัณฑ์ (ระเบิดดินดำ)ไว้ในครอยครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 ปี รวม 2 คดี จำคุก 8 ปี
ฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ ปรับเป็นเงิน 1,950 บาท
จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 975 บาท และริบของกลาง
Matemnews.com 13 กันยายน 2560