คลิกอ่านข่าว
แปลก ! งานประชุมบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ไล่ เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า ออกจากห้อง ไม่ให้เกียรติแสดงความคิดเห็นต่างเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพ
เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าผิดหวังหนัก รมว.สธ ด่วนสรุปปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า สวนทางประเทศชั้นนำทั่วโลก เชื่อถูกยัดไส้ข้อมูลด้านเดียวจากกลุ่มรณรงค์
เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าผิดหวัง รมว สธ ด่วนสรุปไม่เลิกแบนบุหรี่ไฟฟ้า เชื่อ รมว ได้รับข้อมูลด้านเดียวจากฝ่ายรณรงค์ต่อต้าน สวนทางกับแนวทางที่ประเทศชั้นนำทั่วโลกดำเนินการ ย้อนแย้งกับนโยบายพรรคภูมิใจไทย เตรียมรวมตัวสมาชิกฯ บุกพรรคฯ ยื่นผลวิจัยจากต่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้มีการทำประชาพิจารณ์เรื่องนี้โดยสถาบันที่มีความเป็นกลาง
จากกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมต. กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อ 16 ส.ค.2562 ว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสินค้าผิดกฎหมายและไม่คิดยกเลิกแบน เพราะบุหรี่ไฟฟ้ามีพิษภัย
นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “ลาขาดควันยาสูบ” หรือ “ECST”และแอดมินเฟซบุ๊ค “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ให้ความเห็นว่า “พวกเราผิดหวังมากกับสิ่งที่ท่านรมว. สธ. และพรรคภูมิใจไทยเคยให้สัญญาไว้กับสังคมมีความย้อนแย้งกัน ก่อนหน้านี้พรรคฯ เคยมีนโยบายที่ทันสมัยมีความก้าวหน้า ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและผลการวิจัยใหม่ๆ เช่น ปลดล็อคกัญชาเพื่อการรักษาโรคได้ ประกาศจะทำให้แกร็บแท็กซี่ถูกกฎหมาย แต่กลับไม่สนใจเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจจะช่วยแก้ปัญหาอันตรายจากการสูบบุหรี่ของคนไทยได้ ทั้งที่มีผลการยืนยันจากต่างประเทศที่ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน แต่ สธ. ไม่คิดที่จะเอามาพิจารณา แต่กลับเลือกที่จะฟังข้อมูลด้านเดียวจากฝั่ง สสส. ที่รู้กันว่ารณรงค์ต่อต้านบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้ามานานแล้ว เสียดายแทนผู้สูบบุหรี่กว่า10 ล้านคนและผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าอีกกว่า 4 แสนคนทั่วประเทศที่เคยคาดหวังว่าจะได้เห็นนโยบายสาธารณสุขใหม่ๆ จากพรรคภูมิใจไทยที่จะมาช่วยชีวิตพวกเราได้”
เครือข่ายฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน เนื่องจากละอองไอจากบุหรี่ไฟฟ้ามีปริมาณสารพิษน้อยกว่าควันจากบุหรี่ เพราะไม่มีการเผาไหม้ รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขหลายๆ ประเทศ เช่น อังกฤษ สหภาพยุโรป นิวซีแลนด์ จึงสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่มีทางเลือกในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ หรือเพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่ พร้อมกำหนดมาตรการป้องกันเยาวชนและผู้ไม่สูบบุหรี่ไม่ให้เกิดการเริ่มใช้บุหรี่หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยาสูบทุกประเภท แต่สำหรับประเทศไทย บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าผิดกฎหมายที่ห้ามนำเข้าและจำหน่าย แต่มีผู้ใช้ที่ต้องลักลอบซื้อขายอย่างผิดกฎหมายเกือบ4 แสนคน คิดเป็นมูลค่าใต้ดินกว่า 6,000 ล้านบาท สร้างปัญหาให้นักท่องเที่ยวโดนจับ ปรับและรีดไถ แถมยังไม่สามารถป้องกันเด็กเยาวชนได้จริงเพราะสามารถซื้อขายโดยปราศจากการตรวจสอบและควบคุม
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายฯ อีกรายเสริมว่า “เราขอร้องให้ รมว.สธ. ตั้งคณะทำงานมาศึกษาและรับฟังความเห็นของประชาชนในเรื่องนี้ให้รอบคอบก่อนสรุป แผนการดำเนินงานของ สสส. เพื่อควบคุมยาสูบและส่งเสริมสุขภาพปีนี้ได้รับอนุมัติงบประมาณ3,800 ล้านบาท แต่ก็เห็นรณรงค์แบบนี้กันมาหลายทศวรรษแล้ว จำนวนผู้สูบบุหรี่ในบ้านเราไม่ได้ลดลงเท่าไร ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษหรือนิวซีแลนด์ประกาศเป็นประเทศปลอดบุหรี่ โดยสนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกสำหรับผู้สูบ ทำให้จำนวนผู้สูบบุหรี่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้มีแค่ 30 กว่าประเทศที่ห้ามบุหรี่ไฟฟ้าและส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศในกลุ่มล้าหลัง
ข้อมูลเหล่านี้ พวกเราเชื่อว่าท่าน รมว. สธ. คนใหม่อาจจะยังไม่ได้รับทราบแต่ถูกยัดเยียดข้อมูลจากกลุ่มหมอและNGO ที่ครอบงำการทำงาน สสส อยู่ พวกเราและสมาชิกเครือข่ายฯ พร้อมจะสู้ถึงที่สุดเพื่อสิทธิในการปกป้องสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้างจากอันตรายของบุหรี่ โดยจะนำเอารายชื่อผู้สนับสนุนให้มีการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมายกว่า4 หมื่นรายชื่อพร้อมผลการวิจัยและแนวทางที่ต่างประเทศควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าไปนำเสนอ เพื่อเป็นข้อมูลให้พรรคภูมิใจไทยว่าจะฟังเสียงความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนหรือไม่”
matemnews.com
18 สิงหาคม 2562