นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการ
อาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานกรณีคนไทยถูกเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นควบคุมตัวเนื่องจากนำยาแก้ปวดชนิดหนึ่งเข้าประเทศญี่ปุ่น สำนักงาน อย. จึงได้ตรวจสอบ พบว่า ยาแก้ปวดชนิดนั้นเป็นยาที่รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามนำเข้าประเทศ เพราะเป็นยาที่มีส่วนผสมต้องห้ามภายใต้กฎหมายของญี่ปุ่น และขอเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นว่าห้ามนำยาที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจำนวน 11 รายการ
ข้อมูลอ้างอิงรายชื่อยาจากเว็บไซต์สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น
ประจำนครซีแอทเทิล ได้แก่
1. TYLENOL COLD
2. NYQUIL
3. NYQUIL LIQUICAPS
4. ACTIFED
5. SUDAFED
6. ADVIL COLD & SINUS
7. DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”
8. DRISTAN SINUS
9. DRIXORAL SINUS
10. VICKS INHALER
11. LOMOTIL
ห้ามนำเข้าประเทศโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งยาดังกล่าวอยู่ในกลุ่มบรรเทาอาการเจ็บป่วยใน 2 กลุ่มอาการ คือ
กลุ่มยาบรรเทาอาการหวัด ได้แก่ ยาที่มีชื่อ การค้าตามรายการที่ 1 – 10 เป็นยาที่มีตัวยาสำคัญในการใช้แก้ปวด ลดไข้ บรรเทาอาการไอ คัดจมูก แพ้อากาศ ลดน้ำมูก เป็นต้น โดยยาหลายรายการมีสารซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) เป็นส่วนผสม
ส่วนยาในลำดับที่ 11 ใช้สำหรับบรรเทาอาการท้องเสีย มีสารสำคัญที่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 3
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝากข้อแนะนำสำหรับผู้ที่จะต้องนำยาติดตัวเพื่อใช้เฉพาะตนเมื่อเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นว่า ให้นำใบรับรองแพทย์ติดตัวไปด้วย และที่สำคัญอย่าแกะยาออกจากแผงบรรจุยาที่มีชื่อยาระบุไว้และปริมาณไม่ควรเกินการใช้ 30 วัน ในการรักษาตนเอง ส่วนในกรณีที่จำเป็นต้องใช้เกิน 30 วัน หรือเป็นยาที่มีส่วนผสมของยาเสพติดให้โทษที่ใช้ทางการแพทย์ต้องมีมาตรการควบคุมเป็นกรณีพิเศษ เช่น ยาแก้ปวด ที่มีส่วนประกอบเฟนทานิล (Fentanyl) เพทิดีน (Pethidine) เป็นต้น
ต้องทำเรื่องขอและได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อใช้รักษาเฉพาะตัวก่อนออกเดินทาง พึงระลึกไว้เสมอว่ากลุ่มยาต้องห้ามนำเข้าเด็ดขาด คือ ยาเสพติดให้โทษ ยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง