หลังโซเชียลมีการแชร์คลิปฉาวเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลบูรพา อ.เมือง จ.ชลบุรี
ความยาว 1.37 นาที โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 5-6 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจป้องกันปราบปราม 3 นาย ยืนล้อมเตียงชายคนหนึ่งคาดว่าเป็นผู้ต้องหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้รูดปิดผ้าม่านเพื่อปิดบังไม่ให้ใครเห็น โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่าย ปกครอง 3 คน ตำรวจ 2 นาย ยืนล้อมเตียงอยู่ด้านใน และมี จนท.นายหนึ่งได้รัวหมัดกระหน่ำชกต่อยชายคนดังกล่าวนับ 10 ครั้ง เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะที่สังคมออนไลน์วิจารณ์
การทำงานของเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ตามข่าวที่นำเสนอไปวานนี้แล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 29 ส.ค.62 นายภิภัฏกษัตยา ถิรวิวัฒน์กุล อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครชุดราชสีห์พิทักษ์ราษฎร์ ซึ่งเป็นคนที่ปรากฎในคลิปรัวหมัดทุบผู้ต้องหาที่นอนบาดเจ็บอยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉิน ได้เปิดเผยเล่าว่า วันเกิดเหตุได้ไปปฏิบัติงานช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองชลบุรี ซึ่งได้สนธิกำลังกับตำรวจ สภ.เสม็ด ตั้งด่านความมั่นคงที่ถนนข้าวหลาม ฝั่งขาออก ตรวจจับกุมเด็กแว้นที่ออกมาแข่งบนท้องถนน ระหว่างนั้นมี มีเด็กแว้นขี่ จยย.มา 2 คัน คันแรกขี่สวนเลนหนีไป ส่วนอีกคันเห็นว่าด้านหน้ามีด่านจึงพยายามขี่รถ จยย. จะหลบหนี แต่เสียหลักพุ่งชนนายขวัญชัย ช่างเหล็ก หรือที่เรียกกันว่าน้าหมอ อายุ 57 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.เมืองชลบุรี รุ่นพี่ของตนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตรงนั้นจนล้มลงบาดเจ็บ ขาหัก 2 ข้าง กระดูกหน้าอกแตก ศีรษะฟาดพื้น ลมหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่พยายามปมหัวใจนานถึง 10 นาที จึงเรียกรถกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลบูรพา โดยสัญญาณชีพต่ำมาก อาการล่าสุดโคม่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่านตรวจทุกคนไปรอเฝ้าสังเกตอาการบาดเจ็บของคนเจ็บ บริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน
ตนทราบว่าคนขับขี่รถจักรยานยนต์ที่พุ่งชนถูกจับกุม และถูกส่งตัวมารักษาที่ห้องฉุกเฉินของ รพ.บูรพา เช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองและอาสาสมัคร บางส่วนก็เข้าไปสอบถามเด็กแว้นวัยรุ่นชายอายุ 20 ปี ที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงในฉกเฉิน พอตนเจอเด็กแว้นทำให้ไม่พอใจควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จึงพยายามทุบผู้ต้องหาหลายครั้งด้วยความโมโห “การกระทำของผม ผมขออภัย ยอมรับว่าผิดจริง ๆ ผมก็เสียใจที่ทำแบบนั้น พยายามปรับปรุงแก้ไขไม่อยากให้ใครเดือดร้อนในการกระทำของผม”
นายภิภัฏกษัตยา ยอมรับได้กระทำจริงไม่ได้ต่อยปางตาย และได้ยกมือไหว้ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปอาจจะเกินเลย ขอร้องอย่าโทษองค์กรหรือหน่วยงานใด ๆ เป็นเพราะความบันดาลโทสะของตนเอง เนื่องจากตนกับน้าหมอ ทำงานร่วมกันมานานเปรียบเสมือนญาติ
ยืนยันตนไม่ได้เตรียมการมาก่อน หรือสั่งให้ใครรูดปิดผ้าม่านเพื่อจะทุบผู้ต้องหา ไม่รู้ด้วยซ้ำใครเป็นคนรูดม่าน
ซึ่งตนเข้าไปยืนอยู่ข้างเตียงไม่ได้บอกใคร ปลัดอำเภอที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็ไม่รู้ ว่าตนจะก่อเหตุดังกล่าว นาทีนั้นได้ยินเสียงปลัดอำเภอพูดว่า “พอแล้ว พอแล้ว” และได้ตำหนิไม่ให้ทำแบบนี้เพราะไม่สมควรอยู่ในเขตโรงพยาบาล หลังจากที่ทุบเสร็จก็มีคนพาตนเดินออกจากห้องฉุกเฉิน ส่วนเด็กแว้นไม่ได้สลบคาเตียง เขายังเดินลงจากเตียงได้ปกติแล้วไปให้การที่ สภ.แสนสุข ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก ตอนนี้เครียดมากถูกรุมด่า
ฟังชัดๆ เสียงเจ้าหน้าที่อาสาฯ เปิดใจปมบุกรัวหมัดใส่เด็กแว้น คาห้องฉุกเฉิน รพ. อ้างโมโหเด็กแว้นแหกด่าน ขับรถชนรุ่นพี่อาสาอาการโคม่า ยกมือไหว้ขอโทษ ยอมรับผิด #เรื่องเล่าเช้านี้
ดูข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://t.co/nyxaOdfENJ pic.twitter.com/YbrbiaUCHE
— เรื่องเล่าเช้านี้ (@MorningNewsTV3) August 29, 2019
ขณะที่นายประกาศิต ศึกสงคราม ปลัดอำเภอเมืองชลบุรี (ฝ่ายความมั่นคง) ซึ่งยืนอยู่ข้างเตียง ขณะเกิดเหตุ กล่าวว่า ตนได้ไปสอบถามเด็กแว้นที่บาดเจ็บพร้อมต่อว่า ขับขี่รถ จยย. ลักษณะนี้ทำให้คนดี ๆ ต้องบาดเจ็บสาหัสจนเกือบจะเสียชีวิต แต่เด็กแว้นตอบมึน ๆ ว่าไม่ได้ตั้งใจตั้งใจ และมีกลิ่นสุรายอมรับว่าดื่มแอลกอฮอล์ โดยระหว่างที่ตนเองกำลังต่อว่าอยู่นั้นไม่ทันสังเกตว่า ใครเป็นคนรูดผ้าม่านปิดรอบเตียง ทีแรกคิดว่าปิดม่านเพราะเสียงดังอาจรบกวนคนอื่น แต่จู่ ๆ นายภิภัฏกษัตยา ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่าย ปกครองที่มาช่วยปฏิบัติงานตั้งด่านตรวจ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ได้เข้า ไปกระหน่ำทุบคนขับขี่รถจยย.ที่บาดเจ็บ เข้าใจว่าเป็นเพราะมีอารมณ์โกรธแทนเพื่อนร่วมงาน ที่ถูกเด็กแว้นขี่รถ จยย,ชนจนเกือบจะ
เสียชีวิต บางคนน้ำตาคลอจะร้องไห้ อารมณ์รักพี่รักน้อง เพราะว่าสงสารเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ เขาเป็นคนดี จากนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิปที่ปรากฎ
นายปกาสิต กล่าวเพิ่มด้วยว่า “ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองก็มีส่วนผิด ขอโทษสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยไม่มีข้อแก้ตัวใดใด ในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาตนขอรับผิดชอบทุกอย่าง และหากจะโดนลงโทษทางวินัย ตนก็ยินดี ส่วนตำรวจที่ปรากฎในคลิปไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เพียงแต่ทำงาน ด้วยกันเขาเป็นห่วงจึงไปอยู่ตรงนั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วตำรวจไม่สามารถห้ามได้ทัน อย่างไรก็ตามผู้ว่าฯ จ.ชลบุรี ให้ทำรายงานชี้แจงแล้ว”
ทางนายแพทย์ ผอ.สุริยา โปร่งน้ำใจ ผอ.โรงพยาบาลบูรพา เผยว่า หลังเกิดเหตุทราบว่า จนท.ห้องฉุกเฉินพยายามเข้าไปห้ามปรามแล้วสำหรับผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่เห็นเป็นข้าราชการคิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เมื่อมีเหตุขึ้นมาแล้วในฐานะผู้บริหารก็ต้องรับผิดชอบหามาตรการป้องกันต่อไป เหตุที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเสียขวัญเช่นกันเพราะเป็นเขตโรงพยาบาล
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ไปคุยกับนายภัทรศักดิ์ ทิมทอง ญาติของ อส. ที่ถูกรถ จยย.ชน เผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นในห้องฉุกเฉินนั้น เชื่อว่านายภิภัฏกษัตยา คงโมโหจริง ๆ ถ้าเป็นตนก็คงต้องทำแบบนี้เหมือนกัน หากเด็กแว้นไม่ขี่แหกด่านยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจจับก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ อย่างมากก็เสียค่าปรับ ส่วนอาการของนายขวัญชัย รักษาอาการอยู่ในห้องไอซียูยังโคม่า ปอดติดเชื้อ หายใจเองไม่ได้ ประสาทการรับรู้ช้า
ทางนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว โดยคนที่ลงมือทุบผู้ต้องหานั้นเป็น อส.ประเภทสำรอง คล้ายจิตอาสาที่เข้ามาช่วยงานฝ่ายปกครองเท่านั้น ไม่มีเงินเดือน แต่ก็ควรยับยั้งชั่งใจไม่ควรกระทำตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นสั่งให้นายอำเภอ ปลดการทำหน้าที่ของคนก่อเหตุแล้ว หากผู้ต้องหาที่ถูกทำร้ายจะเอาเรื่องแจ้งความข้อหา ทำร้ายร่างกาย ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจจะแจ้งข้อหาดำเนินคดี
ด้าน พ.ต.อ.เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ ผกก.สภ.แสนสุข ว่าจากการสอบปากคำ นายศรศักดิ์ ขอคนสำโรง อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ขี่รถ จยย.หนีด่านพุ่งชนนายขวัญชัย อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ยอมเปิดปากพูดถึงเรื่องที่ถูกซ้อมใน รพ. เลยไม่รู้ว่าจะแจ้งความเอาเรื่องคนก่อเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ได้ส่งตัวฝากขังต่อศาล จ.ชลบุรี ไปแล้ว ขณะนี้ตัวถูกส่งควบคุมอยู่เรือนจำกลางชลบุรี
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นยืนยันว่าชายที่ทำร้ายผู้ต้องหาไม่ใช่ตำรวจ แต่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งในพื้นที่ที่ร่วมปฏิบัติงานกับตำรวจ พร้อมยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีตำรวจเกี่ยวข้อง เพราะจากภาพในกล้องวงจรปิดแม้ตำรวจจะอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากได้รับการประสานให้มารับตัวผู้ต้องหาที่โรงพยาบาล แต่ขณะเกิดเหตุถูกกันให้อยู่ด้านนอกม่านเตียงผู้ป่วย อย่างไรก็ตามหากทางโรงพยาบาลเห็นว่าถูกบุกรุก สามารถแจ้งความได้ และมองว่า
แม้ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกาย จะเป็นผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปทำร้าย
นอกจากนี้นายสาธิต ปิตุเตชะ รมว.สาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @mhorteeofficial ถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นในคลิปวิดีโอนั้นน่าสะเทือนใจมาก ชายในเครื่องแบบกลุ่มหนึ่งได้เข้าทำร้ายร่างกายผู้ป่วยโดยการชก ซึ่งอีกฝ่ายไม่มีท่าทางต่อสู้หรือขัดขึ้น ผมไม่สนับสนุนความรุนแรงและขอเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องให้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกครับ”
ที่มา เรื่องเล่าเช้านี้