พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติลักลอบลำเลียงยาเสพติด ตามโครงการ AITF
โดยคดีแรก จับกุมนายเกลน ชิวาสเซลโล อูโก อายุ 43 ปีชาวเคนยา และนายโอชิตะ โจเซฟ อุคปา อายุ 40 ปี ชาวไนจีเรีย พร้อมของกลางโคคาอีน 65 ก้อน หนัก 1,210 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
โดยจับกุมได้หลังนำทั้งสองคนไปตรวจร่างกาย พบสิ่งแปลกปลอมในช่องท้อง ซึ่งนายเกลน ยอมรับว่ากลืนยาเสพติดจริง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการ จนสามารถจับกุมนายโอ ชิตะ ที่มาขอรับโคคาอีนจากห้องพักที่นายเกลน พักอยู่ จึงแจ้งข้อหา “นำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) เข้ามาในราชอาณาจักรและพยายามส่งออกยาเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต่อผู้ต้องหาทั้งสอง ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีต่อมาจับกุม นายชางกุย เกา อายุ 27 ปี ชาวจีน พร้อมด้วยของกลาง เคตามีน 10 กิโลกรัม และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจยึดพัสดุภัณฑ์ที่จะส่งไปเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายในพบเคตามีน 28 กิโลกรัม ในกล่องนมผง ก่อนขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ส่งชาวจีน ได้ 3 คน กระทั่งได้รับแจ้งว่านายชางกุย หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับ จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อลักลอบนำยาเสพติดออกนอกประเทศอีก
ต่อมาฝ่ายสืบสวน ได้สืบทราบว่า นายชางกุย พักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง จึงเข้าจับกุมนายชางกุย พร้อมตรวจค้นห้องพักพบกระเป๋าเดินทาง ซุกซ่อนห่อชาสีเขียว 10 ถุง ภายในมีเคตามีน จึงคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย