พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงใต้เมื่อตอนเช้า 13 ก.ย.2562 เครื่องลิยลงจอดสนามบินนครศรีธรรรมราช เวา 9.05 น. จุดแรกไปดูพื้นที่ก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองท่าเรือ-หัวตรุด กิโลเมตรที่ 9+200 เป็นโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีมีประชาชามารอต้อนรับ นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง กรมชลประทาน กล่าวรายงานความเป็นมาและความคืบหน้าการดำเนินงานของโครงการฯ ฟังรายงานจบ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวผ่านไมโครโฟน ว่า
“ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนที่ยังไม่ให้ความร่วมมืออีก 58 ครัวเรือน ว่า ถ้าโครงการนี้สำเร็จจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ถึงร้อยละ 80 หากรัฐบาลทำความเข้าใจฝ่ายเดียวประชาชนจะไม่เข้าใจ จึงอยากให้ชาวบ้านช่วยกันบอกถึงผลดีคืออะไร โครงการนี้เริ่มดำเนินการได้เมื่อปี 2559 เป็นโครงการของ รัชกาลที่ 9 โดยรัฐบาลมีความตั้งใจนำทุกโครงการมาดำเนินการสานต่อทั้งหมดตามพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 จึงขอให้ประชาชนสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทำให้ประเทศไทยมีการพัฒนาและคงอยู่ มีความปรองดอง ส่วนประชาธิปไตยก็ต้องเดินควบคู่กันไป ต้องลดความขัดแย้ง ลดการต่อรองลง ยืนยันรัฐบาลทำอย่างเต็มที่ และพร้อมทำงานให้ได้มากที่สุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ดีใจที่ได้พบกับประชาชนและรู้สึกเป็นห่วงภาคใต้ แต่ได้แก้ปัญหาหนี้สิน หนี้นอกระบบให้ไปแล้วแต่ประชาชน ยังขาดการรับรู้ ต้องช่วยกันทำความเข้าใจให้ประชาชนด้วย เป็นห่วงสถานการณ์น้ำที่จังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่ภาคอีสานมีอีกหลายพื้นที่ เมื่อคืนผมนั่งเอาใจช่วย เพราะมีฝนตกมาจำนวนมาก แต่ทุกภาคส่วนก็ได้ร่วมกันบูรณาการ แก้ไขปัญหาให้ความช่วยเหลือ เรียกว่ายุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ 20 ปี”
จากนั้นลงเดินคุยกับชาวบ้าน
“ทุกคนมีหน้าที่ต่อประเทศชาติและแผ่นดินนี้ เห็นนายกฯคนนี้แล้วเป็นไง ใช้ได้มั๊ย เรื่องหล่อเอาไว้ก่อน ถามว่าทำงานใช้ได้หรือไม่ดีกว่า พวกเราเดือดร้อนอะไรมากหรือไม่ที่ผมเป็นนายกฯ ไม่เดือดร้อนใช่ไหม รายได้ก็ยังดีอยู่ แต่ก็ยังมีปัญหามีบางคนที่ยังออกมาพูดไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อีอีซี หรือเรื่องของรายได้ ก็ว่ากันไปอะไรที่ถูกกฎหมายก็ทำ อย่างเช่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถ้าเรามีรายได้เข้ามาก็จะมีไปเพิ่ม แต่ไม่ใช่เป็นการสัญญาให้เปล่า และบ้านเมืองจะดีได้ต้องมีการพัฒนาและมีเสถียรภาพในทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจก็จะแย่ทั้งหมด ทุกอย่างก็จะไปไม่ได้ รัฐบาลจะดูแลทุกภาคส่วน แต่ก็ขอให้เห็นใจรัฐบาลด้วยเพราะต้องทำงานทุกด้านไม่ใช่ทำอะไรไม่ดีก็มาว่ามาด่ารัฐบาลอย่างเดียว”
…………………………………………………..
เฟชบุ้ค ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
วันนี้ท่านนายกฯเดินทางไปนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานีค่ะ โดยเดินทางไปตรวจติดตามบริเวณพื้นที่ก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองท่าเรือ –หัวตรุด กิโลเมตรที่ 9+200 ตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
.
จากนั้นจึงไปพบประชาชนและนักเรียน ณ โรงเรียนสาธิตองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 (ท่าเรือมิตรภาพที่ 30) ตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายกรัฐมนตรีได้มอบอุปกรณ์ส่งเสริมอาชีพให้แก่ผู้สูงอายุ และอุปกรณ์การเรียนให้แก่ผู้แทนนักเรียน
.
ท่านนายกฯบอกว่า มานครศรีธรรมราชแล้ว 4 ครั้ง วันนี้มาในนามนายกฯและคณะรัฐมนตรี ที่นครศรีธรรมราชน้ำยังไม่เยอะ แต่ต้องมาดูเพื่อเตรียมการก่อน สำหรับโครงการประตูระบายน้ำนี้จะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ 90% หลายอย่างต้องใช้เวลาแก้ อย่างส้มโอที่ให้ไปกว่าจะออกผลก็ 3 ปี เหมือนกันกับการเปลี่ยนแปลงมิติต่าง ๆ ซึ่งต้องทำร่วมกันไปและใช้เวลา การได้เห็นถึงความน่ารักของคนที่เสียสละที่ดินให้รัฐบาลทำประตูระบายน้ำที่นี่เป็นเรื่องที่ดี เราต้องเร่งระบายน้ำออกทะเลให้เร็วขึ้น
.
การท่องเที่ยวทำให้คนนครศรีธรรมราชรายได้สูงขึ้น แต่รัฐบาลยังต้องดูแลเรื่องสาธารณูปโภค เรื่องการกำจัดขยะ จึงฝากพี่น้องลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง จะได้ไม่ไปเกิดขยะทะเลเป็นผลร้ายกับสัตว์ทะเล ขอให้ทุกโรงแรมร่วมกันเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ส่วนของโรงงานเรื่องขยะ น้ำเสีย จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน
.
นครศรีธรรมราชมีรายได้ต่อหัวประมาณ 9 หมื่นกว่าบาท แต่ยังมีคนที่มีรายได้ต่ำกว่านี้ รัฐจึงเข้ามาดูแลเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ เพื่อให้มีใช้ซื้อของจำเป็นต่อการดำรงชีพ แต่หากอยากจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมก็ต้องร่วมมือเข้าอบรม ฝึกอาชีพ นอกจากนี้ขอฝากเรื่องการพัฒนาสินค้า GAP และหาช่องทางการขายเพิ่มเติมออนไลน์ด้วย
matemnews.com
13 กันยายน 2562