“ผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุอย่างชัดเจนว่า การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในกรณีถวายสัตย์ไม่ครบ ตีความว่าเป็นเรื่องทางการเมือง ที่ฝ่ายการเมืองต้องนำไปพิจารณา นั่นหมายความว่า ไม่มีทางอื่นใดที่จะแก้ไขปัญหาคาราคาซังของรัฐบาลชุดนี้ได้นอกจากใช้ที่ประชุมรัฐสภาในการแก้ไขปัญหา ถือว่าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นข้อยุติที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามนำมาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ตอบคำถามของสังคมไม่ได้อีกต่อไป การอภิปรายของฝ่ายค้านในกรณีนี้ถือเป็นข้อยุติ ที่จะดำเนินการในวันพุธนี้เพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้ ส่วนการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายพรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมมาก โดยจะเน้นใช้ข้อกฎหมายและคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญที่ให้รัฐสภาเป็นผู้พิจารณา โดยชี้ให้เห็นถึงการปฏิบัติของนายกฯ ที่จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหากกรณีดังกล่าวเป็นโมฆะหรืออาจจะเป็นบรรทัดฐานที่มิชอบในอนาคตของการบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯ หรือหน่วยงานสำคัญที่ต้องเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อไป วันพุธนี้ประชาชนจะได้ทราบว่า ตกลงผลกระทบในครั้งนี้ของนายกฯ ที่ไม่ปฏิบัติให้ครบถ้วนจะเกิดผลต่อการบริหารประเทศอย่างไร และจะได้ยินนายกฯ ตอบคำถามในสภาว่า สรุปแล้วตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ลืม หรือว่า หลง ไม่ว่าอย่างไรก็ควรยอมรับในสภา จะได้ช่วยกันหาทางออก เพราะฝ่ายค้านก็มีเรื่องอื่นที่สำคัญในการติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเหมือนกัน นอกจากนี้ จะเป็นการอภิปรายตามฯ ญัตติที่ยื่นไว้ เช่น การเสนอแนะและการสอบถามเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินของ ครม.และนโยบายการหาเงินของรัฐบาล นอกจากการรีดภาษีประชาชนและการกู้เงิน รัฐบาลชุดนี้มีอะไรบ้างที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำของประเทศได้บ้างเป็นต้น”
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าว 15 ก.ย.2562
matemnews.com
15 กันยายน 2562