น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และส.ส.กทม. แถลงข่าวหลังการประชุม 7 พรรคฝ่ายค้าน ที่ทำการพรรคเพื่อไทย 17 ก.ย.2562 ว่า
“การอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในวันที่18 ก.ย. หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางมาชี้แจง ด้วยตัวเองเพื่อสร้างความกระจ่างให้สังคมว่า ข้อความที่หายไป มีนัยยะสำคัญอะไรหรือไม่ หากไม่มีนัยยะพิเศษ ท่านควรมาตอบด้วยตัวเอง นายกฯกล้าที่จะพูดความจริง ทุกอย่างก็จะมีทางออก โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณไปปรับฮวงจุ้ยที่ทำเนียบรัฐบาล ค วรนำงบส่วนนี้ไปช่วยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมดีกว่า หวังว่า นายกฯ จะไม่ทำตัว ลับลวงพราง ไม่อ้างภารกิจด่วนอื่นบังหน้า มอบหมายให้คนอื่นมาชี้แจง เพราะกำหนดการอภิปราย ฝ่ายค้านได้ชี้แจงให้ทราบล่วงหน้านานพอสมควร พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ประชาชนต่างฝากบอกให้เราบอกนายกฯ อย่าหนีสภาฯ วันนี้ประชาชนอยากรู้นายกฯ ทำไมถึงถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน มีเจตนาพิเศษ ซ่อนเร้นอะไรหรือไม่ นายกฯควรใช้เวทีสภาฯ หาข้อยุติ หาทางออกร่วมกัน เพื่อให้มีบรรทัดฐานที่ชัดเจน นอกจากนี้นายกฯไม่ควรใช้เวทีเปิดการสัมมนาบุคคลากรภาครัฐ เป็นเวทีระบายความคับข้องหมองใจ การจัดเวทีแต่ละครั้งใช้งบประมาณหลายล้านบาท แทนที่ข้าราชการจะได้รับฟังนโยบาย เพื่อนำไปใช้งาน แต่กลับต้องมาฟังนายกฯระบายความในใจ แก้ต่างให้ตัวเอง ซึ่งไม่มีผู้นำที่ไหนเขาทำกัน”
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ท่าทีของนายกฯ ที่แสดงออกเกี่ยวกับการช่วยเหลือน้ำท่วมให้ประชาชน เป็นสิ่งไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ไปบ่นว่า ชาวบ้านขอแต่เงิน นายกฯโดนแต่คนด่า ตำหนิ เป็นท่าทีของความเบื่อหน่าย ไม่สู้ปัญหา ทุกนายกรัฐมนตรีที่เป็นมา ต่างเจอสภาพเช่นนี้ทั้งนั้น เมื่อชาวบ้านลำบากก็ต้องแสวงหาคนช่วยเหลือ คนช่วยได้คือ รัฐบาล ถ้ารัฐบาลช่วยไม่ได้ หรือไม่ช่วย จะโดนตำหนิ เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่มีรัฐบาลไหน มาย้อนกลับ เหมือนกับนายกฯ ที่บอกชาวบ้านขอแต่เงิน เป็นทัศนคติเชิงลบ ชาวบ้านก็เสียภาษี เขาก็ทำหน้าที่ถูกต้อง มีความชอบธรรมที่จะทวงถามงบประมาณ เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องชี้แจง ไม่รู้ว่า รัฐบาลปิดบังงบประมาณหรือไม่ รัฐจะมาโทษชาวบ้านไม่ได้ ชาวบ้านไม่รู้ว่า รัฐมีหรือไม่มีเงิน และเรื่องนี้ นายกฯควรไปตอบในสภาฯ ขอให้นายกฯปรับท่าทีใหม่ นายกฯในอดีตเจอ เหตุการณ์สึนามิ ไม่เห็นบ่น ร่วมกับองค์กรต่างๆช่วยเหลือชาวบ้าน น้ำท่วมครั้งนี้ ไม่มากเท่าเหตุการณ์ปี 2554 ตอนนั้นท่วมทั้งประเทศ แต่ตอนนี้ท่วมเพียงจ.อุบลราชธานี ที่เดียว ซึ่งนายกฯเมื่อปี 2554 ไม่เคยค่อนขอดชาวบ้าน แต่นายกฯท่านเป็นชายชาติทหาร แต่อ่อนแอกว่าผู้หญิง ถ้าท่านมีท่าทีแบบนี้ หากวันหน้าเจออะไรหนักหนากว่านี้ แล้วชาวบ้านจะหวังพึ่งนายกฯได้หรือไม่ ผู้จะอภิปรายนายกฯ วันที่18ก.ย. ของพรรคร่วมฝ่ายค้านมีเพียง 15 คน อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายสุทิน คลังแสง นส.จิราพร สินธุไพร นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ จากพรรคเพื่อไทย นายปิยบุตร แสงกนกกุล นางสิริกัญญา ตันสกุล นายคารม พลพรกลาง จากพรรคอนาคตใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคประชาชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีวมไทย นายนิคม บุญวิเศษ พรรคพลังปวงชนไทย เป็นต้น ซึ่งการอภิปรายจะเน้นที่ความกระชับ พรรคร่วมฝ่าค้านไม่สนใจว่าการอภิปรายจะจบในเวลาหกทุ่มหรือไม่ หากรัฐบาล จนมุม เราเสนอเนื้อหาอย่างสมบูรณ์ ก็อาจจบก่อนเวลา แต่ถ้าไม่มีความชัดเจน นายกฯตอบไม่ได้ ก็อาจจะถึงเวลา หกทุ่มก็เป็นได้ และขอฝากไปถึงฝ่ายรัฐบาล อย่าทำลายจังหวะพวกเรา อย่าใช้เสียงมากกว่า ขอปิดประชุมก่อนกำหนด ขออภิปรายลับ ขอนับองค์ประชุม หรือแม้แต่ การที่ฝ่ายรัฐ ไม่มาลงชื่อเพื่อเปิดประชุม ที่จะทำให้การประชุมล่าช้าออกไป ซึ่งทำให้เวลาอภิปรายฝ่ายรัฐบาล ที่น้อยอยู่แล้ว ยิ่งน้อยลง ขอฝ่ายรัฐบาลอย่าทำ”
matemnews.com
17 กันยายน 2562
