Home ข่าวประชาสัมพันธ์ สองนักธุรกิจสาวไทย เจ้าของแบรนด์ Richly Rich และ Vanity Thailand สุดปัง คว้าเน็ตไอดอลจีน ไลฟ์สดบุกตลาดสินค้าออนไลน์

สองนักธุรกิจสาวไทย เจ้าของแบรนด์ Richly Rich และ Vanity Thailand สุดปัง คว้าเน็ตไอดอลจีน ไลฟ์สดบุกตลาดสินค้าออนไลน์

912
0
SHARE

สองนักธุรกิจสาวไทย เจ้าของแบรนด์ Richly Rich และ Vanity Thailand จัดงานไลฟ์สดบุกตลาดสินค้าออนไลน์ที่จีน

สองนักธุรกิจสาวไทย คุณ เฟิร์น ชนทิดา ศักดิ์พงศธร ผู้บริหารแห่ง Richly Rich และคุณ บีบี เปรมวดี อมราภรณ์พิสุทธิ์ ผู้บริหาร Vanity Thailand ซึ่งปัจจุบันทั้งสองถือว่าเป็นเจ้าแม่ตลาดจีน โดยนักธุรกิจสาวไทยทั้งสองและพาร์ทเนอร์ชาวจีนเคยสร้างสถิติยอดขายไลฟ์สดต่อวัน 20ล้านที่จีน

อยากบอกว่าตลาดออนไลน์ที่จีนนักธุรกิจไทยหลายคนพยายามเจาะและเข้าไปขยายการตลาดนั้น มีเยอะมากเพราะโอกาสในการสร้างยอดขายมหาศาลนั้นเกิดขึ้นได้ไม่ยากถ้าเจอนักธุรกิจและนักการตลาดตัวจริงที่ไม่เพียงแค่เก่งเรื่องของภาษาและต้องมีประสบการณ์การทำตลาดออนไลน์มาอย่างยาวนานมากกว่า 5 ปี ซึงวันนี้ ที่จีนมีสาวไทย นามว่า คุณบีบีและคุณเฟิร์น ได้เข้าบุกตลาดออนไลน์ที่จีนมานานแล้วและได้ฟังตัวเลขของการขายที่นั่นบอกเลยว่า ต้องทึ่งและอึ้งเพราะที่จีนนั้นจริงๆแล้วรูปแบบการตลาดออนไลน์ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากเมืองไทยเพียงแต่กำลังซื้อมหาศาลมากขนาดทำสถิติยอดขายไลฟ์สดติดต่อกัน 7 ชั่วโมงทำยอดขายได้ไป5ล้านหยวนหรือ20กว่าล้านบาทไทย!!!

โดยคุณเฟิร์น นักธุรกิจสาวที่เริ่มต้นเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดจีนจึงเริ่มต้นผลิตสินค้าเข้าไปขายที่จีน ตัวเองเธอเรียนและทำงานที่ออสเตรเลียเป็นเวลา8 ปี ซึ่งใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญในการทำโฆษณาเพื่อจับกลุ่มเป้าลูกค้าต่างชาติจนมียอดขายเติบโตและเริ่มจับมือกับนักธุรกิจพาร์ทเนอร์จากจีนเพื่อนำสินค้ากลุ่มความสวยความงามไปทำการตลาดที่นั่น

ส่วนทางด้าน คุณบีบี เปิดใจว่าตัวเองเริ่มต้นเส้นทางอาชีพจากการเป็นพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ รับรายได้วันละ 3-5 พันสมัยก่อนถือว่าเยอะมากเป็นอาชีพที่รายได้ดี ส่งเสียตัวเองเรียน ขยันทำงานเก็บเงินไม่มีเวลาไปเที่ยวเพราะต้องหาเงิน เวลาว่างจากการพักเบรคต้องหยิบหนังสือมาอ่าน “ช่วงที่เราเรียนอยู่นะคะ ตอนนั้นรับงานพริตตี้ตามงานอีเว้น วันหนึ่งวิ่ง 3-4 งาน ถือว่ารายได้ดีมากเลยนะสมัยก่อน

6-7ปีที่แล้ว บีบีแทบไม่มีเวลาไปสนุกกับเพื่อนเพราะแบบพรุ่งนี้ต้องสอบเราก็รับงาน เวลาว่างหรือเบรกต้องเอาหนังสือมาอ่านไปในตัว คือหาเงินเรียนจนเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งหลังเรียนจบ และตัดสินใจมาเรียนต่อที่ประเทศจีน อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนชีวิต”

“บีบีมาเรียนต่อที่จีน เรียนภาษาเราเห็นการเติบโตของตลาดออนไลน์ มองการไกลเลยว่านี่แหละคือดินแดนที่น่ามาลงขยายการค้า จนเราลองผิดลองถูกนำสินค้าจากไทยเข้ามาที่จีนไม่ได้ขายที่ไทยเลยนะสำหรับสินค้าทีบีบีผลิตมา และสินค้าแบรนด์ดังของไทย

เกี่ยวกับความสวยความงาม เราเริ่มมีคอนเนคชั่นเกิดขึ้นจึงได้ร่วมมือกับทางคุณเฟิร์นพัฒนา เริ่มหาช่องทางทำการตลาด รู้จักกับคนดังหรือเน็ตไอดอลของจีนและช่องทางโซเซียลของจีนที่คนนิยมเล่นกัน การทำการตลาดของบีบีไม่ใช่การพาไปออกบูทตามงามแฟร์หรือพบคู่ค้า แต่งานของบีบีคือการเอาสินค้าไปสู่ผู้ซื้อตรงๆเลย ทำให้สินค้าติดกระแส ทำให้สินค้าเริ่มติดตลาดจากการเอาคนดังที่บ้านเขามารีวิว มาไลฟ์สด มาทำกิจกรรมกับสินค้าจนครั้งหนึ่งมีการไลฟ์สดติดต่อการกว่า 7 ชั่วโมง สร้างสถิติยอดขายกับสินค้าตัวนั้นไป 20กว่าล้านค่ะ” บางแบรนด์เค้าทำได้ถึง100กว่าล้านเลยนะคะยินดีและตื่นเต้นกับเค้ามาก

“ที่จีนการไลฟ์สดขายยอดขาย 20ล้านในช่วงเทศกาลเช่น 11.11(วันคนโสด)ถือว่าปกติมากส่งนบางแบรนด์เค้ามำได้ร้อยล้าน สองร้อยล้านมันคือเรื่องที่ไม่น่าเชื่อใช่มั่ยคะ แต่มีนขริงค่ะพี่ การตลาดออนไลน์ที่นี่ดุเดือดและตื่นเต้นมาก สินค้าไทยหลายแบรนด์เข้าจีนประสบความสำเร็จเยอะมาก ทั้งๆทีเมืองไทยไม่เป็นที่รู้จักเลย สินค้ากลุ่มความสวยความงามของไทยที่จีนดังมากเลยนะ ถ้าจับถูกจุดรวยมหาศาลเลยค่ะ บีบีเป็นแค่มดตัวเล็กๆที่เข้าไปในตลาดจีนและอยากบอกว่าเราต้องก้าวข้ามจากการเป็นแม่ค้าออนไลน์ไลฟ์สดขายเองด้วยการเป็นนักธุรกิจนักการตลาดที่ส่งออก ไปตลาดที่จีน แต่ตลาดจีนละเอียดอ่อนมาก ต้องศึกษาเยอะๆซึ่งใครที่อยากให้คำปรึกษายินดีนะคะ”