จากกรณี พริตตี้สาว ถูก “เสี่ยท็อป” อายุ 50 ปี นักธุรกิจหมื่นล้าน ขอแต่งงานและจัดงานแต่งงานสุดหรูหราที่โรงแรมใน จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะทิ้งหนี้สิน จนสาวนำเรื่องมาเผยต่อสื่อสังคมขณะที่ “เสี่ยท็อป” ซึ่งเดินทางไปฮ่องกง พร้อมเผยว่า เตรียมกลับมาแถลงข่าว ล่าสุดเมื่อกลางดึกวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมาเสี่ยท็อปเดินทางกลับจากฮ่องกงที่สนามบินดอนเมือง ได้ถูกตำรวจควบคุมตัว เนื่องจากถูกออกหมายจับตั้งแต่ปี 2559 หลบหนีไม่มาขึ้นศาลคดีเช็คเด้ง
เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 18 ต.ค. เจ้าหน้าที่ บช.สตม.คุมตัว นายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร หรือ เสี่ยท็อป ส่งศาลแขวงพระนครเหนือ ตามหมายจับ ข้อหากระทำความผิดฐาน พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ทั้งนี้สื่อมวลชนพยายามจะสอบถามเสี่ยท็อป แต่เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไรกับสื่อมวลชนมาก ได้แต่เพียงยิ้มเท่านั้น
ด้านนางพัชรธัญวิสิฐ ทองเมือง อายุ 64 ปี หรือ น้าน้อย ผู้ที่เลี้ยงเสี่ยท็อปมาตั้งแต่ 6 ขวบ เปิดเผยว่า ทางมารดาของนายธนณัฏฐ์ ให้มาดูว่าลูกต้องการจะกินหรือเอาอะไรบ้าง พร้อมให้บอกว่าให้ใจเย็นๆ ให้ตั้งสติ พร้อมนำยาเบาหวานมาให้ เนื่องจากเสี่ยท็อปเป็นเบาหวาน ทั้งนี้หลานไม่ได้เครียด เพราะเขายังมีแม่อยู่ แม่คงไม่ทิ้งหรอก ทางแม่ก็ได้ติดต่อมาทางตนเพื่อสอบถามพูดคุยเรื่องลูก ซึ่งเสี่ยท็อปก็บอกว่ายังไม่หิว หากหิวหรืออยากกินอะไรก็จะใช้ให้ตนไปซื้อเอง ส่วนทางแม่ของเสี่ยท็อปนั้นมีอาการเครียด เพราะเป็นห่วงลูก ทั้งนี้ยังไม่ได้รับการประสานเรื่องการประกันตัวจากทางญาติแต่อย่างใด
ขณะที่ทนายความของเสี่ยท็อปกล่าวว่า ตนนัดคุยกับเสี่ยท็อปตอนเวลา 09.00น. แต่ปรากฎว่าตำรวจนำตัวไปส่งศาลก่อน โดยตอนนี้ทีมทนายยังไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อยื่นประกันตัว เพราะทางเสี่ยท็อปบอกว่ายังมีเงินอยู่ แต่เมื่อคืนวันที่17 ต.ค เสี่ยท็อปมีค่าน้ำตาลขึ้นถึง 380 เป็นผลจากโรคเบาหวาน
ที่มา นิวส์ทีวี และ ไทยรัฐออนไลน์